ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า 3% หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ปัจจัยลบ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 3% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 29 ต.ค. 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นกว่า 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวันจากสัปดาห์ก่อนหน้า
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ปัจจัยลบ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประกาศลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจนสิ้นสุดมาตรการในกลางปี 2565 อย่างไรก็ตาม FED ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม
ปัจจัยบวก/ลบ จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ในวันพฤหัสบดีที่ 4 พ.ย. 2564 นี้ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามข้อตกลงเดิมหรือไม่ หลังหลายประเทศนำโดย สหรัฐ อินเดีย และญี่ปุ่นออกกดดันให้ทางกลุ่มเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอความร้อนแรงของราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอินเดียและจีน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐปรับลดลงต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่อุปทานอยู่ในระดับจำกัด หลังจีนมีแนวโน้มปรับลดการส่งออกลง
ที่มา ไทยออยล์