ต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยเป็นเดือนที่สาม ต.ค.ทำสถิติสูงสุดรอบ 10 เดือน

ตลาดหุ้นไทยเดือน ต.ค.64 นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม โดยในเดือนต.ค.เป็นเดือนที่ต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุดอยู่ที่ 15,773 ล้านบาท และสูงสุดในรอบ 10 เดือน  ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยดัชนี SET Index เดือนต.ค.64 ปิดที่ 1,638.75 จุด เพิ่มขึ้น 7.7% จากเดือนก.ย. “โควิดแนวโน้มดีขึ้น-เศรษฐกิจฟื้น-เปิดประเทศ” เป็นตัวหนุนดัชนีหุ้นไทย

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า  กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2564 ลงเล็กน้อย โดยสาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น

รวมถึงปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทานซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในหลายประเทศ ทั่วโลกส่งผลให้ธนาคารกลางต่างๆ อาจดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวในขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวจากโควิด-19 อย่างเต็มตัว

ส่งผลให้ภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือนต.ค. 64 SET Index ปิดที่  1,638.75 จุด เพิ่มขึ้น 7.7% จากสิ้นเดือนก.ย. 64  ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาช่วง 8 เดือนแรกปี 64 จะพบว่า SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 13.1% ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 63 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มบริการ

ส่วน SET Index ในช่วง 10 เดือนแรกปี 64 ได้แรงหนุนจากเกือบทุกอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 63 ได้แก่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ กลุ่มการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ด้านนักลงลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สามต่อเนื่องกันในปี  64 ตั้งแต่เดือน ส.ค.- ต.ค. 64 โดยในเดือน ต.ค 64 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 15,773 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 10 เดือนแรกปี 64 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 63,399 ล้านบาท

โดยผู้ลงทุนในประเทศมีสถานะเป็นผู้ซื้อสุทธิ 101,974 ล้านบาท นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 63 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง

ในเดือน ต.ค 64 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็ท เอ ไอ (mai)  อยู่ที่ 88,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.8% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยใน 10 เดือนแรกปี 64 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 95,683 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบว่าในเดือน ต.ค. 64 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET จำนวน 3 บริษัท และ ใน mai จำนวน 2 บริษัท โดยใน 10 เดือนแรกปี 64 SET มีมูลค่าเสนอขายในตลาดแรก (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน

ด้าน Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ต.ค. 64 อยู่ที่ระดับ 7 เท่า และ 19.9 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.2 เท่า และ 17.7 เท่าตามลำดับ

ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ 72% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.39%

ในเดือน ต.ค 64 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 573,676 สัญญา ลดลง 5% จากเดือนก่อน

และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 64 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 552,436 สัญญา เพิ่มขึ้น 20.9% ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures, Gold online futures และ USD Futures เป็นสำคัญ

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ขยายเวลาซื้อขาย USD Futures ในช่วงกลางคืน (Night Session) ระหว่าง 50-23.55 น. ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 64 โดยได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มเปิด Night Session มีปริมาณซื้อขายช่วงกลางคืนคิดเป็นกว่า 30% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด


“อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น อีกทั้งภาครัฐประกาศเดินหน้าเปิดประเทศโดยผ่อนคลายให้ผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต่ำสามารถเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ทำให้เห็นเม็ดเงิน (Fund Flow) จากผู้ลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยเป็นเดือนที่สามติดต่อกันโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศ (reopening)” นายศรพล กล่าว

นายศรพล ตุลยะเสถียร