คนละครึ่ง เฟส 4 จ่าย 1,200 บาท บัตรคนจน 600 บาท คลังอุ้ม 44.7 ล้านคน

คนละครึ่ง

รมว.คลังเผย ครม.ไฟเขียว 3 โครงการลดภาระค่าครองชีพ ดูแลประชาชนกว่า 44.7 ล้านคน หมุนเม็ดเงินลงสู่ระบบ 8 หมื่นล้านบาท คาดกระตุ้นจีดีพีปี’65 กว่า 0.21%

วันที่ 24 มกราคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ซึ่งคณะกรรมการมีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และ (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 วงเงินรวมกว่า 44,100 ล้านบาท ช่วยเหลือประชาชนรวมกว่า 44.7 ล้านคน

“การดำเนินการทั้ง 3 โครงการ จะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในปี 2565 จำนวน 80,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ GDP ทั้งปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21 ต่อปี จากกรณีฐาน อีกทั้งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจเพื่อให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์โควิด”

ทั้งนี้ รายละเอียดโครงการ ได้แก่ 1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4  ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 8,071 ล้านบาท ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน โดยจะใช้ฐานข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565

2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 1,352 ล้านบาท

โดยให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ได้ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ได้) ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิตามโครงการเราชนะ กลุ่ม 4 จำนวนไม่เกิน 2.25 ล้านคน

3.โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 สนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการนวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสินค้าหรือบริการ ที่กระทรวงการคลังกำหนด จากภาครัฐในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-วันที่ 30 เมษายน 2565 ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน


“สาเหตุที่คนละครึ่ง เฟส 4 ได้รับวงเงินรวมน้อยกว่าที่ผ่านมา เพราะว่าดัชนีทางเศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นตัวโดยลำดับ ประชาชนเชื่อมั่นการบริโภค รัฐจึงช่วยเหลือแบ่งเบาภาระประชาชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายเพิ่ม และค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายในคนละครึ่ง เฟส 3 ก็มีคนใช้จ่ายจริงไม่ถึง 150 บาท จึงลดวงเงินรวมลงมา”