หุ้น-การเงิน

ขอคืนเงินภาษี เช็กสถานะช่องทางไหน ได้รับเงินคืนเมื่อไร

ภาษี

ชำระเงินภาษีเกิน สามารถขอรับเงินคืนภาษีได้ เช็กสถานะ ช่องทางการตรวจสอบ สามารถรับคืนเงินได้ช่องทางไหน ใช้เวลากี่วัน

วันที่ 6 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่มีรายได้จะมีหน้าที่ในการยื่นแบบภาษีประจำปีเพื่อแสดงรายได้ โดยกรมสรรพากรกำหนดให้ยื่นแบบกระดาษ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2565 และยื่นผ่านออนไลน์จนถึงวันที่ 8 เมษายน 2565

สำหรับผู้ที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายระหว่างปีมากกว่าภาษีที่ตนเองต้องจ่ายเมื่อคำนวณภาษีเรียบร้อยแล้ว สามารถยื่นขอคืนเงินภาษีได้ โดยมีรายละเอียด และช่องทางการติดตามสถานะคืนเงิน ตามที่ “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมมาให้

เช็กสถานะคืนเงินภาษี

ผู้เสียภาษีที่รู้ตัวว่าตนเองชำระภาษีเกิน หลังยื่นภาษีไปแล้ว สามารถตรวจสอบสถานะ การขอคืนเงินภาษีตามขั้นตอนของกรมสรรพากร ดังนี้

1. เข้าเว็บไซต์ กรมสรรพากร

2. เลือกเมนู “สอบถามการคืนภาษี”

3. กรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ชื่อผู้เสียภาษี, ชื่อกลาง, ชื่อสกุล

  • ไม่ต้องระบุคำนำหน้าชื่อ
  • กรณีเป็น คณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง หรือ ห้างหุ้นส่วนสามัญ ให้ใส่เครื่องหมาย “-” ที่ช่อง ชื่อสกุล

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบสถานะคืนเงินภาษีได้อีก 2 ช่องทาง ได้แก่

  • ศูนย์บริการข้อมูลสรรพากร (RD Call Center) : 1161
  • สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตามภูมิลำเนาที่ปรากฏตามการยื่นแบบ

ช่องทางคืนเงินภาษี

พร้อมเพย์ 

กรมสรรพากรจะคืนเงินภาษีที่ผู้เสียภาษีชำระไว้เกิน ผ่านบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยจะได้รับโอนเงินเข้าบัญชี หลังได้รับอนุมัติคืนเงินภาษีภายใน 4 วัน

สาขาธนาคารกรุงไทย – ธ.ก.ส.

ผู้เสียภาษีที่ไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ กรมสรรพากรจะออกหนังสือ ค.21  พร้อมเช็ค จัดส่งทางไปรษณีย์ที่อยู่บนแบบยื่นภาษี โดยใช้เวลา 15 วัน เบ็ดเสร็จทั้งสิ้น 45 วันได้รับเงิน

สถานะ “คืนเงินภาษี” แต่ยังไม่ได้รับเงิน

กรณีที่ผู้ยื่นภาษีเปลี่ยนที่อยู่ โดยไม่ได้แจ้งกรมสรรพากร หรืออาจไม่ได้เปลี่ยนที่อยู่ แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน ให้ติดต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ ตามที่ระบุไว้ในแบบฯ ภ.ง.ด.90/91 เพื่อติดตาม คืนเงินภาษี ขอรับเช็ค หรือโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ตนเองสมัครไว้ โดยเอกสารที่ใช้ประกอบคำร้องมีดังนี้

1. บัตรประจำประชาชน พร้อมสำเนา

2. หนังสือมอบอำนาจ กรณีให้ผู้อื่นกระทำการแทน และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจพร้อมสำเนา