Exponential Technology คืออะไร? ทำไมเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังเติบโต

โดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

Exponential มีความหมายเกี่ยวกับเลขยกกำลังในทางคณิตศาสตร์…แล้วคำคุณศัพท์นี้เกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่างไร

เลขยกกำลัง คือ การเพิ่มค่าให้กับตัวเลขฐาน หากค่าที่คำนวณจากเลขยกกำลังมาทำในรูปของกราฟเส้น คุณจะเห็นเส้นที่ตั้งชันขึ้นมาก เหมือนกับการเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ

เมื่อนำมาผสมกับคำว่า Technology จึงเกิดเป็นคำว่า Exponential Technology หมายถึง เทคโนโลยีที่มีพัฒนาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถได้แบบทวีคูณ หรือมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

การลงทุนด้านเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทได้ในระยะยาว สวนทางกับต้นทุนที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทนั้นๆ สามารถลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้อย่างมหาศาล

Exponential Technology จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจจะทำได้ยากหรือใช้เวลานาน หากใช้แรงงานคน และบริษัทที่นำเทคโนโลยีมาใช้จะกลายเป็นผู้นำในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันไม่มีใครหลีกหนีอิทธิพลของเทคโนโลยีและความเป็นดิจิทัลได้ นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมายในแบบที่มนุษย์ก้าวตามไม่ทัน เรียกได้ว่า ธุรกิจไหนที่ก้าวเข้าไปสู่เทคโนโลยีได้ จะมีศักยภาพเติบโตสูงมาก

ตัวอย่างของ Exponential Technology ที่ใกล้ตัวที่สุด คือ คอมพิวเตอร์ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรทั่วโลก และมีการพัฒนาที่สอดคล้องกับกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ที่ว่า จำนวนทรานซิสเตอร์ในชิปประมวลผลจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุก 2 ปี ปัจจุบันคอมพิวเตอร์กลายเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วโลกไปแล้ว

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกมากมายที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชีวภาพ (BioTech) บล็อกเชน (Blockchain) และควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computer) เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ ที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สะดวกสบายขึ้น และช่วยลดความผิดพลาดให้น้อยลง

นั่นเป็นเหตุผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Exponential Technology มีความน่าสนใจจนกลายมาเป็นการลงทุนในธีม (Thematic Investment) จากความคาดหวังว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาจะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมในวงกว้าง

ปัจจุบันเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ  ถูกนำไปประยุกต์ใช้ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่แวดวงธุรกิจเท่านั้น แต่ได้กระจายไปทุกหย่อมหญ้า แม้แต่ชีวิตประจำวันของคนๆ หนึ่งต่างผูกติดอยู่กับเทคโนโลยีแบบที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย

โอกาสลงทุนใน Exponential Technology

ปัจจุบันทางเลือกการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และเกี่ยวข้องกับ Exponential Technology อย่าง iShares Exponential Technologies ETF (XT) เป็นตัวแทนของธีมเทคโนโลยี

XT เป็น Passive ETF ที่ลงทุนให้ผลตอบแทนไปตามดัชนีอ้างอิง Morningstar Exponential Technologies Index คำนวณจาก 200 บริษัททั่วโลกที่สร้างสรรค์นวัตกรรมเปลี่ยนแปลงสังคมในวงกว้าง มากกว่า 60% ของ XT เป็นหุ้นจากสหรัฐอเมริกา

คำถามต่อมา คือ ธีมเทคโนโลยีแตกต่างจากธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไร เพราะทั้ง 2 ธีมมีสัดส่วนการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเหมือนๆ กัน เพราะตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐฯ เป็นแหล่งรวมของหุ้นเทคโนโลยีระดับโลกมากมาย ทำให้ธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีบริษัทเทคโนโลยีรวมอยู่ด้วย

ธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ มี Passive ETF คือ Schwab U.S. Large-Cap ETF (SCHX) หุ้นอันดับต้นๆ ของ SCHX คือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่คนรู้จักกันทั่วโลก เช่น Apple Microsoft Google Amazon หรือ Meta Platforms เป็นหุ้นขนาดเมกะแคป (มูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ SCHX เลือกลงทุนตามขนาดมาร์เก็ตแคปของบริษัทที่อยู่ในดัชนีอ้างอิง Dow Jones U.S. Large-Cap Total Stock Market Index มากกว่า 760 บริษัท

ส่วนธีมเทคโนโลยีอย่าง XT จะเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคต ซึ่งก็ใช้คำว่า Exponential Technology ซึ่งกระจายการลงทุนไปหลายๆ บริษัทตามนโยบายนั้น

ดังนั้น Passive ETF ทั้ง 2 กองนี้ถูกออกแบบนโยบายให้แตกต่างกันอยู่แล้ว เพียงแต่มีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบางส่วนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ลงทุนเหมือนๆ กัน

ผมจะพาคุณไปผ่าไส้ในของ 8 บริษัท ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะมาเปลี่ยนโลกอนาคตและสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ส่อง 8 บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนานวัตกรรมเปลี่ยนโลก

XT เป็น Passive ETF ไม่ได้เลือกลงทุนในบริษัทที่มาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ แต่เลือกบริษัทเทคโนโลยีจากทุกมุมโลก คุณอาจจะไม่คุ้นชื่อหลายๆ บริษัทที่อยู่ใน XT โดยจะเป็น 8 บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงสังคมในวงกว้าง และมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก

บริษัทที่ผมรวบรวมมานี้ ถูกจับตามองว่า มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกและจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมนุษย์ในอนาคต

Genscript Biotech Corporation

บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากตลาดหุ้นฮ่องกง โดยเป็นผู้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยียีนสังเคราะห์ บริษัทสามารถสังเคราะห์ยีนได้เป็นจำนวนมากในปริมาณที่ไม่มีบริษัทไหนสามารถทำได้มาก่อน ทาง Genscript ได้พัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพมาอย่างต่อเนื่องและมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในอนาคต

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 3 ปีย้อนหลังของ Genscript Biotech

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2563 3,030 +42.34% 1,984 +41.29%
2562 2,129 +17.68% 1,404 +13.10%
2561 1,809 +51.67% 1,242 +51.91%

ข้อมูล: Jitta.com หน่วย: ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

Nvidia Corporation

บริษัทผู้คิดค้นชิปประมวลผลชื่อดังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีลูกค้ารายใหญ่ๆ จากทั่วโลกที่ใช้ชิปประมวลผลจาก Nvidia ปริมาณมหาศาล จนทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทาง Nvidia เองมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอและเป็นบริษัทผลิตชิปประมวลผลกราฟิก หรือเรียกกันติดปากว่า การ์ดจอ รายใหญ่ที่สุดในโลก และยิ่งเทคโนโลยีเติบโตรวดเร็วมากเท่าไร ยิ่งทำให้ Nvidia เติบโตเร็วมากขึ้นเช่นเดียวกัน

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 3 ปีย้อนหลังของ Nvidia

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2564 16,675 +52.73% 10,557 +55.98%
2563 10,918 -6.81% 6,768 -5.62%
2562 11,716 +20.61% 7,171 +23.17%

ข้อมูล: Jitta.com หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปีงบประมาณ เริ่มเดือนกุมภาพันธ์ จบเดือนมกราคม

ASM International

บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากตลาดหุ้นเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเติบโตในปี 2511 ASM ได้พัฒนารูปแบบของเซมิคอนดักเตอร์ให้มีขนาดเล็กลง ราคาถูกลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ASM ยังได้บุกเบิกเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย เช่น เครือข่ายการสนับสนุนระดับโลก พัฒนาวัสดุใหม่และกระบวนการใช้งาน เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานในระยะยาว และขยายธุรกิจไปใน 14 ประเทศทั่วโลก

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 2 ปีย้อนหลังของ ASM International

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2563 1,328 +3.44% 623.56 -2.33%
2562 1,283 N/A 638.46 N/A

ข้อมูล: ASM.com หน่วย: ล้านยูโร

ON Semiconductor

บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 2542 เดิมเป็นบริษัทในเครือของโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง Motorola ที่รับผิดชอบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ปัจจุบัน ON ได้ขยายธุรกิจจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมพลังงาน การกระจายสัญญาณ อุปกรณ์รถยนต์ คอมพิวเตอร์และเครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย โดยเป็นบริษัทผู้นำในการจัดจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ 20 อันดับแรกของโลก

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 3 ปีย้อนหลังของ ON Semiconductor

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2563 5,255 -4.76% 1,716 -13.92%
2562 5,518 -6.13% 1,993 -10.97%
2561 5,878 +6.05% 2,239 +9.98%

ข้อมูล: Jitta.com หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Zscaler

บริษัทที่คิดค้นระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในคลาวด์จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยระบบดังกล่าวใช้ชื่อว่า Secure Access Service Edge (SASE) ทำให้ผู้ใช้ได้รับความปลอดภัยและใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ทาง Zscaler ยังให้บริการติดตามการสื่อสารของศูนย์ข้อมูลภายในบริษัทที่เป็นผู้ใช้บริการ ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยในการใช้เครือข่ายให้กับบริษัทต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 3 ปีย้อนหลังของ Zscaler

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2564 673.1 +56.07% 524.0 +55.93%
2563 431.3 +42.41% 336.1 +37.91%
2562 302.8 +59.24% 243.7 +60.01%

ข้อมูล: Jitta.com หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มเดือนสิงหาคม จบเดือนกรกฎาคม

Albemarle Corporation

บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรีลิเธียม โบรมีน และสารเร่งปฏิกิริยา ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2430 โดยในปัจจุบัน Albemarle ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำของโลกในด้านการผลิตแบตเตอรรีลิเธียมและขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และการขนส่ง โดย Albemarle มีเป้าหมายว่า จะผลิตแบตเตอรีที่มีศักยภาพการเก็บประจุไฟฟ้ามากขึ้น ความปลอดภัยสูงขึ้น และใช้งานได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 3 ปีย้อนหลังของ Albemarle

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2563 3,129 -12.83% 995.6 -20.96%
2562 3,589 +6.35% 1,259 +2.00%
2561 3,375 +9.86% 1,235 +7.81%

ข้อมูล: Jitta.com หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Arista Networks

ผู้นำอุตสาหกรรมด้านเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยบิ๊กดาต้าจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยมีธุรกิจหลักคือการให้บริการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ไว้บนคลาวด์ ทาง Arista มุ่งหวังที่จะสร้างเครือข่ายและนวัตกรรมที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจุบัน Arista มีแพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลคือ CloudVision และ Arista EOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายขั้นสูง

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 3 ปีย้อนหลังของ Arista Networks

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2563 2,318 -3.87% 1,482 -4.04%
2562 2,411 +12.05% 1,544 +12.45%
2561 2,151 +30.69% 1,373 +29.35%

ข้อมูล: Jitta.com หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Tesla

บริษัทพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) อันดับ 1 ของโลกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมาร์เก็ตแคปที่สุดในโลก เป็นผู้ผลักดันอุตสาหกรรม EV ของโลก โดย Tesla ได้พัฒนา EV และระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ของการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า EV เป็นรถยนต์แห่งอนาคตอย่างแท้จริง

รายได้รวมและกำไรขั้นต้น 3 ปีย้อนหลังของ Tesla

งบการเงิน รายได้รวม % เปลี่ยนแปลง กำไรขั้นต้น % เปลี่ยนแปลง
2563 31,536 +28.31% 6,630 +62.94%
2562 24,578 +14.52% 4,069 +0.67%
2561 21,461 +82.51% 4,042 +81.83%

ข้อมูล: Jitta.com หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้ง 8 บริษัทที่ผมรวบรวมมานี้ ต่างคิดค้นนวัตกรรม Exponential Technology มีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์และการดำเนินธุรกิจทั่วโลก โดยพัฒนาสินค้าและบริการที่หลากหลาย เทคโนโลยีของหลายๆ บริษัทกำลังจะเข้ามาทดแทนสินค้าแบบเดิมๆ ซึ่งหมายถึงศักยภาพในการเติบโตและพัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีหลักที่จะทำให้โลกน่าอยู่มากยิ่งขึ้นในอนาคต

อย่างเช่น เซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังขาดแคลน จนทำให้บริษัทเทคโนโลยีด้านฮาร์ดแวร์ผลิตสินค้าไม่ทันตามความต้องการของคนทั่วโลก ราคาสินค้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง หรือยอดขาย EV อย่าง Tesla ก็ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา สะท้อนว่าตลาดผู้ใช้เทคโนโลยีกำลังเติบโต คนทั่วโลกขานรับการใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น


หากคุณสนใจลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Exponential Technology ตัวแทนของธีมเทคโนโลยีที่เป็น Thematic Investment เมกะเทรนด์อนาคตไกล เข้ามาศึกษาหลักการจัดพอร์ตลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคล Thematic ได้ที่เว็บไซต์ https://jittawealth.com/thematic/