รมว.คลัง สั่ง กอช.เพิ่มเงินบำนาญเป็นเดือนละ 1 หมื่นบาท หนุนคนออมรองรับวัยเกษียณมากขึ้น ด้าน กอช.ขานรับนโยบาย ชงรัฐใส่เงินสมทบสมาชิกเป็น 1,800 บาท/ปี ส่วนสมาชิกออมได้สูงถึง 3 หมื่นบาท/ปี หวังสร้างแรงจูงใจแรงงานนอกระบบสมัครเพิ่ม
วันที่ 25 เมษายน 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมให้คนหันมาออมเงินมากขึ้น กระทรวงการคลังจึงได้สั่งการให้กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพิ่มกลุ่มอาชีพอิสระ ให้สามารถเข้ามาออมเงินกับ กอช.ได้ โดยเฉพาะผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 10 ล้านคน รวมทั้งจัดทำแนวทางการเพิ่มเงินบำนาญต่อเดือนหลังเกษียณที่สมาชิก กอช. จะได้รับให้มากขึ้นเป็น 10,000 บาทต่อเดือน เพื่อจูงใจให้คนหันมาออมเงินกับ กอช. มากขึ้น
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
“มองว่าหากเพิ่มเงินบำนาญหลังเกษียณให้ถึง 1 หมื่นบาทต่อเดือน ก็จะจูงใจได้ แต่ก็ต้องเพิ่มเงินสะสมและเงินสมทบ อาจจะเป็น 1,500 บาท หรือ 1,800 บาทต่อปี พวกกลุ่มอาชีพอิสระที่มาลง มาตรา 40 ก็มี 10 ล้านคน ก็ดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ใน กอช. ตอนนี้ได้ให้ กอช. จัดทำข้อเสนอมา เพราะต้องเสนอ ครม. และยังต้องดูในเรื่องของงบประมาณด้วย เพราะงบประมาณ ปี’66 อาจไม่ทัน ก็ต้องมาดูว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ สามารถใช้งบประมาณกลางได้หรือไม่” นายอาคมกล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กอช.ได้เสนอให้ระดับนโยบายพิจารณาเพิ่มวงเงินการออมของสมาชิกและเงินสมทบจากรัฐบาล โดยในส่วนของสมาชิกสามารถสะสมได้สูงถึง 30,000 บาทต่อปี จากเดิม 13,000 บาทต่อปี ส่วนเงินสมทบของรัฐบาลนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 บาทต่อปี จากเดิม 1,200 บาทต่อปี
“การเพิ่มเงินออมของสมาชิกและเงินสมทบจากรัฐบาลจะช่วยจูงใจให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้น และจะทำให้สมาชิกมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณเพิ่มขึ้น กรณีสมัครเข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึง 60 ปี สมาชิกจะมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณถึง 1.5 ล้านบาท เฉลี่ยต่อเดือนที่ 7.5 พันบาท”
สำหรับเม็ดเงินที่รัฐบาลจะต้องจัดสรรมาเพิ่มให้แก่สมาชิกนั้น จะเฉลี่ยปีละประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาทเท่านั้น ในกรณีที่สมาชิกส่งเงินออมไม่ครบตามเงื่อนไข ก็จะไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐบาล นั่นหมายความว่า รัฐบาลก็ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบให้
นอกจากนี้ กอช.ยังเสนอแก้ไขเพิ่มอายุการเกษียณของผู้ออมจาก 60 ปี เป็น 65 ปี เนื่องจากขณะนี้ประชาชนมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น ในส่วนอายุเริ่มต้นสำหรับการสมัครเข้าเป็นสมาชิก กอช.ได้เสนอให้ผู้ออมสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ตั้งแต่แรกเกิด หรือ 7 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 18 ปี เพื่อให้มีอัตราการออมที่มากขึ้น
ขณะที่สมาชิก กอช.ในปัจจุบันอยู่ที่ 2.47 ล้านคน โดยในปีที่แล้ว มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 6 หมื่นรายเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงโควิด ทำให้ยอดสมาชิกเพิ่มขึ้นไม่มากนัก บวกกับนโยบายของรัฐบาลที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประกันตนในมาตรา 40 ทำให้ประชาชนหันไปสมัครเป็นสมาชิกมาตรา 40 จำนวนมาก
“ยอดสมาชิกที่มีอยู่ 2.47 ล้านคนนั้น มีผู้ที่ออมต่อเนื่องประมาณ 50% เท่านั้น อย่างไรก็ดี พฤติกรรมการออมของสมาชิกเริ่มดีขึ้น โดยมีเงินออมเข้ามาเพิ่มปีละพันกว่าล้านบาท แสดงว่าสมาชิกเริ่มเข้าใจเรื่องการออมมากขึ้น”
ทั้งนี้ ปัจจุบันเงินกองทุนของ กอช.อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ได้บริหารสร้างผลตอบแทนแก่สมาชิกได้ประมาณ 1% ถือว่าชนะดอกเบี้ยเงินฝากที่มีผลตอบแทนประมาณ 0.5% เท่านั้น ทั้งนี้ กองทุนได้นำเงินไปบริหารจัดการผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนมั่นคงประมาณ 80% แต่กำลังพิจารณาว่าจะปรับสัดส่วนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นแก่สมาชิก