หุ้นโรงกลั่นประคองตลาด น้ำมันไปต่อ-ซาอุฯปรับลดราคาขายให้ฝั่งเอเชีย

หุ้น-1

บล.ฟิลลิปประเมินตลาดหุ้นไทย แกว่งตัวในกรอบ 1,610-1,635 จุด ตลาดให้น้ำหนักปัญหาเงินเฟ้อหลังปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล คาดรัฐเตรียมหารือให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้น-แรงเก็งกำไรงบฯไตรมาส 1/65 โค้งท้าย-หุ้นโรงกลั่นได้ประโยชน์จากกรณีที่ซาอุฯ ประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันให้เอเชีย ช่วยประคองการอ่อนตัวของตลาด

วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า ดัชนี SET Index วันนี้คาดแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,610-1,635 จุด หลังเป็นช่วงตลาดซึมซับแรงกระแทกจากปัจจัยลบในสัปดาห์ก่อน จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขณะที่ปัจจัยภายในตลาดให้น้ำหนักกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่ตามมา หลังปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล

อย่างไรก็ดี การเตรียมหารือเรื่องประกาศให้โรค COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้น รวมถึงการเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีผลประกอบการดีในช่วงโค้งสุดท้ายฤดูประกาศผลงบการเงิน และหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จากกรณีที่ซาอุฯ ประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันให้เอเชีย ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยประคองการอ่อนตัวของตลาด จึงมองตลาดจะอิงทางแกว่งตัวออกด้านข้างไปก่อน

โดยสำหรับราคาน้ำมันดิบ WTI เดินหน้าอิงทางขึ้นต่อ จ่อทะลุ 111 เหรียญต่อบาร์เรล ท่ามกลางการจับตาพัฒนาการการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียของ EU โดยมองเป้าราคาน้ำมันดิบหากปรับตัวขึ้นทะลุ 111 เหรียญต่อบาร์เรล จะมีแนวต้านถัดไปที่ 116 เหรียญต่อบาร์เรล

ส่วนด้าน Saudi Aramco ประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันให้ฝั่งเอเชียลงมาที่ 4.40 เหรียญต่อบาร์เรล เหนือราคา Benchmark ในเดือน มิ.ย. จากราคาที่ 9.35 เหรียญต่อบาร์เรล เหนือราคา Benchmark ในเดือน พ.ค.

ด้านดัชนี CPI เดือน เม.ย.ไทยที่ประกาศในช่วงสัปดาห์ก่อนค่อนข้างปรับตัวขึ้นต่ำกว่าสัดส่วน การปรับขึ้นของเดือน ก.พ. และ มี.ค. เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากฐาน CPI เดือน เม.ย. 64 เป็นเดือนที่สูงที่สุดในปี

ดังนั้นจึงเร็วไปที่จะด่วนสรุปว่าปัญหาอัตราเงินเฟ้อเริ่มเป็นขาลง ขณะที่ราคาอาหาร เช่น เนื้อหมูปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในปีนี้ที่ 200 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาอาหาร ค่าขนส่ง รวมถึงอาหารทะเลเริ่มทยอยปรับตัวขึ้นตาม โดยเพดานราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร

ทางฝ่ายจึงมองอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค. จะมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแรง จากฐานที่ต่ำราว 2.44% ในปีก่อน
และราคาพลังงานรวมถึงอาหารในประเทศหนุน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เน้นก็งกำไร 1.หุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น เช่น PTTEP, TOP, SPRC, BCP ซึ่งได้เปรียบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังพุ่งต่อเนื่อง ขณะที่ด้านต้นทุนได้ปัจจัยบวกจากการที่ซาอุฯ ประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันในกลุ่มเอเชีย 2.หุ้นกลุ่มเปิดเมืองเปิดประเทศ เช่น ONEE, CENTEL และ 3.เก็งกำไรในหุ้นที่คาดมีผลประกอบการดีในไตรมาส 1/65

ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกนำเข้า ตัวเลข CPI และ PPI ของจีน และตัวเลข PPI และ CPI และ Core CPI ของสหรัฐ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน เม.ย. ของไทย