ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้ายังคงเพิ่มขึ้น

ภาพ : pixabay

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้ายังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจัยในประเทศ IATA คาดจำนวนผู้เดินทางจากต่างประเทศมาไทยปีนี้เกินกว่า 10 ล้านคน โดยเฉพาะหลัง 1ก.ค.จะเพิ่มสูงขึ้นหลังยกเลิกระบบลงทะเบียน Thailand Pass

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2565 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (28/6) ที่ระดับ 35.39/41 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (27/6) ที่ระดับ 35.32/34 บาท หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน พ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน เม.ย.

ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือน พ.ค. ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน พ.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน เม.ย.

นอกจากนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending home sales) เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 6 เดือนก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 3.7% ในเดือน พ.ค.

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทราบว่าล่าสุดสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้การคาดการณ์การจราจรทางอากาศ และจำนวนผู้เดินทางจากต่างประเทศมายังประเทศไทยในปี’65 จะเกินกว่า 10 ล้านคน โดยการเพิ่มขึ้นของผู้เดินทางเป็นไปทิศทางเดียวกับทั่วโลก เนื่องจากหลายประเทศผ่อนคลายข้อจำกัดการเข้าประเทศ หลังคลายความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19

ขณะนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้หารือกับทุกสายการบิน และผู้บริหารท่าอากาศยานทุกแห่ง เพื่อจัดเที่ยวบิน สลอตการบิน การเพิ่มบุคลากรให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสาร โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป ที่ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศจะสูงขึ้น หลังการยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass สำหรับชาวต่างชาติ การเดินทางเข้าประเทศกลับสู่ภาวะปกติเช่นเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 35.06-35.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 35.09/11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (28/6) ที่ระดับ 1.0583/85 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อจันทร์ (27/6) ที่ระดับ 1.0579/81 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ โดยนักลงทุนเฝ้ารอปัจจัยใหม่ ๆ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0550-1.0615 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0583/85 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (28/6) ที่ระดับ 135.32/34 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (27/6) ที่ระดับ 135.20/22 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยนายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า แม้ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่เกิดจากการที่รัสเซียผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรแต่เขาคาดการณ์ว่า ผลกระทบดังกล่าวอาจจะอยู่แค่ในวงจำกัด เนื่องจากญี่ปุ่นมีอัตราส่วนการลงทุนในพันธบัตรรัสเซียไม่มากนัก

ทำเนียบขาว และมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสยืนยันว่า รัสเซียได้ผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 100 ปี ทั้งนี้ รัสเซียมีกำหนดชำระดอกเบี้ยพันธบัตรยูโรบอนด์ 2 ฉบับ มูลค่ารวม 100 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 27 พ.ค. ขณะที่ระยะเวลาผ่อนผัน 1 เดือนได้สิ้นสุดลงวานนี้ (27 มิ.ย.)

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 135.13-135.90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 15.87/89 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ (28/6), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อชิคาโก (30/6), ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐ (1/7)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.70/-1.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -2.3/0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ