สั่งฟ้องชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกในคดีฆาตกรรมบิลลี่

Thai News Pix

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

กรมสอบสวนคดีพิเศษนำตัวอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและพวกอีก 4 คน ยื่นฟ้องข้อหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณี “ฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ

ตามที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม นายชัยวัฒน์  ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 309 เมื่อวันพุธที่ 31 ส.ค. 2565 ณ กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมไปยังพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ก.ย. 2565

วันนี้ (5 ก.ย.) เวลา 10.00 น. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำตัวนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวก รวม 4 คน ไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งตัวให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยคดีต่อศาลดังกล่าวตามขั้นตอนกฎหมาย

“ไม่ได้กังวลอะไร….เตรียมเอกสารและหลักประกันตัวมา ถ้ายื่นฟ้องก็จะประกันทันที” นายชัยวัฒน์ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวกับสื่อมวลชน

ส่วนตัว นายชัยวัฒน์รู้สึกยินดีที่คดีนี้มาถึงชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ของตนเอง และขอให้สังคมติดตามข้อมูลหลักฐานที่จะเปิดเผยต่อชั้นศาลว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็น “การกุข่าว สร้างเรื่อง”

“ไม่ว่าจะเรื่องเผาบ้านปู่คออี้ ว่าใครทำหลักฐานเท็จมาฟ้อง เพราะมันพิสูจย์อยู่แล้วว่าเราไม่ได้ไปเผาบ้านปู่คออี้”

Thai News Pix

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ดีเอสไปเรียกตัวนายชัยวัฒน์เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา นายชัยวัฒน์ ยืนกรานกับกองทัพสื่อมวลชนว่า เป็นผู้บริสุทธ์ และไม่ทราบถึงการหายตัวไป-ฆาตกรรม “บิลลี่” แต่อย่างใด ส่วนตัวรู้สึกน้อยใจมากกว่า เพราะเป็นตัวเขาเองที่ถูก “องค์กรบางแห่ง” คุกคามมาโดยตลอด

“ผมน่ะถูกคุกคามจากองค์กรที่ไม่มีความเป็นธรรม ชีวิตผมทำงานเพื่อปกป้องป่า ชีวิตผมทุกวันนี้ ตัวคนเดียว ทำงานอยู่คนเดียว”

“ผมปกป้องป่ามาตลอดชีวิต ผมปกป้องสัตว์ป่ามาตลอดชีวิต ผมทำงานเพื่อแผ่นดิน ปกป้องทรัพย์สินของแผ่นดิน ผมไม่เคยทำแล้วเป็นประโยชน์กับผมสักเรื่องเดียว ผมยึดที่เป็นแสน ๆ ไร่ ผมไม่เคยได้สักไร่หนึ่ง”

“อยากฝากถามกลับไปว่า ชัยวัฒน์ทำเพื่ออะไร ถ้าชัยวัฒน์ทำเพื่อประเทศชาติ ก็ขอให้เข้าใจไว้เท่านั้น”

ชัยวัฒน์

ที่มาของภาพ, .

ย้อนรอยการหายตัวของบิลลี่

ต้องย้อนจากชาวบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชาวปกาเกอะญอที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่า อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มาก่อนการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อปี 2524

นับจากการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเป็นต้นมา พวกเขาถูกไล่รื้อ บังคับอพยพอย่างน้อย ๆ 2 ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 2539 และ 2554 โดยมีการใช้ “ปฏิบัติการยุทธการตะนาวศรี” เผาบ้านและยุ้งฉางของชาวบ้านเพื่อบังคับย้ายชาวกะเหรี่ยงออกจากป่าใจแผ่นดิน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้นายคออี้ มีมิ หรือ “ปู่คออี้” ผู้นำจิตวิญญาณชาวกะเหรี่ยง กลายเป็นที่รู้จัก เขายังเป็นผู้ฟ้องคดีที่กรมอุทยานฯ เผายุ้งฉางชาวกะเหรี่ยง

17 เม.ย. 2557 บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย และหลานของปู่คออี้ ได้สูญหายไปขณะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทนายความ เขาเข้าไปเก็บข้อมูลจากปู่คออี้และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการไล่ที่เพื่อนำไปใช้ในชั้นศาล

การสอบสวนชาวบ้านในพื้นที่ทำให้รู้ว่าช่วงเย็นวันที่ 17 เม.ย. บิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจานควบคุมตัวไว้ และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย

บ้านรักจงเจริญ

ที่มาของภาพ, บ้านรักจงเจริญ

ต่อมาในปี 2561 ปู่คออี้เสียชีวิต ด้วยอายุ 107 ปี โดยไม่ได้กลับไปยังบ้านเกิด

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานในเวลานั้น เป็นหนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ควบคุมตัวบิลลี่ เขาให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2562 หรือหนึ่งวันหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวการพบกระดูกของบิลลี่ว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวบิลลี่ฐานมีน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครอง 38 ขวด แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ปล่อยตัวไป

ชัยวัฒน์บอกด้วยว่า เขาไม่เคยจับกุมชาวกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจาน ถ้าเป็นชุมชนที่อยู่มาดั้งเดิมและทำตามกฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยมองชาวกะเหรี่ยงในแง่ร้าย แต่เหตุที่ต้องนำปฏิบัติการการเผาบ้านปู่คออี้และชุมชนชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยครั้งนั้น “เป็นเหตุผลด้านความมั่นคงและภัยคุกคาม”

25 มี.ค. 2564 คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีมติเมื่อ 25 มี.ค. 2564 ให้ปลดนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ออกจากราชการ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยการเผาทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านบางกลอยในป่าแก่งประจาน

10 ส.ค. 2565 สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งหนังสือลงวันที่ 10 ส.ค. 2565 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ลงนามโดยนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ซึ่งปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ยืนยันว่า อัยการสูงสุดได้ลงนามในความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และพวกรวม 4 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” คือ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่

…..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว