กรมวิทย์ฯ เผยไทยพบโอมิครอน BA.2.3.20 แล้ว 2 ราย

กรมวิทย์ฯ เผยไทยพบโอมิครอน BA.2.3.20 แล้ว 2 ราย ส่วน BA.4.6 พบ 3 ราย และ XBB.X พบแล้ว 5 ราย ย้ำยังไม่พบสัญญาณที่น่ากังวล

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ช่วงวันที่ 22-28 ตุลาคม 2565 พบ BA.2.75 ถึง 10 ราย ในบางพื้นที่ ซึ่งเดิมบางสัปดาห์พบเพียง 3-5 ราย ถือว่าเพิ่มขึ้น จะต้องติดตามเฝ้าระวังต่อไป

โดยอนาคตจะจับตาดู BQ.1 ว่าจะเพิ่มจำนวนเหมือนในยุโรปและสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ซึ่งจะต้องเพิ่มน้ำยาตรวจจำเพาะต่อสายพันธุ์ BQ ทั้งหลายด้วย

ส่วนสายพันธุ์อื่น ๆ พบสายพันธุ์ BA.2 จำนวน 5 ราย สายพันธุ์ BA.4/BA.5 จำนวน 118 ราย และโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ 10 ราย

สำหรับสายพันธุ์ย่อยที่องค์การอนามัยโลกระบุให้เฝ้าติดตามที่เริ่มพบในประเทศไทย เช่น สายพันธุ์ BA.4.6 มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า ภูมิคุ้มกันของคนที่ได้รับวัคซีนหรือติดเชื้อมาก่อน ลบล้างเชื้อหรือฆ่าเชื้อ BA.4.6 ได้น้อยลงกว่าครึ่งหนึ่ง แสดงว่าคนที่ได้รับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อมาจะได้ผลต่อ BA.4.6 น้อยลงไปครึ่งหนึ่ง ขณะนี้พบ 3 รายแล้ว

สายพันธุ์ BA.2.3.20 ซึ่งเป็นลูกหลานของ BA.2 มีแนวโน้มแพร่เร็ว แต่ยังไม่มีข้อมูลความรุนแรง ขณะนี้พบในประเทศไทยแล้ว 2 รายทั้งคู่หายแล้ว

ส่วน AY.103 ซึ่งเป็นลูกหลานเดลต้า ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ เพียงแต่มีตำแหน่งกลายพันธุ์ที่เพิ่มจากเดลต้าเดิม ซึ่งยังไม่มีหลักฐานแสดงความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ยังไม่พบในประเทศไทย

นายแพทย์ศุภกิจย้ำว่า ในช่วงฤดูหนาวนี้อาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกัน ใส่หน้ากาก ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเครือข่ายจะทำหน้าที่เฝ้าระวังติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น