ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565 เป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงานที่จดทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับลงร้อยละแปดสิบของอัตราที่กำหนด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2565 เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565 มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
- เจ้าหญิงเคท แถลงได้รับการวินิจฉัยว่าทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง
- Q1 “ITD” สะเทือน 4 แบงก์ใหญ่ ส่อตั้งสำรองเพิ่ม-กำไรหด
- ส่องพอร์ตหุ้นไทย “ดร.นิเวศน์-ครอบครัว” 5.6 พันล้าน ปี’66 ได้ปันผลกี่บาท
ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 31 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป)
มาตรา 3 ให้ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน ที่จดทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับลงร้อยละแปดสิบของอัตราที่กำหนดตาม (11) ของอัตราภาษีประจำปีท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2550 เป็นระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่รถนั้นจดทะเบียน
มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้