เมนูค้างคาวมาอีกแล้ว ยังดีที่ “สารวัตรบีเกิ้ล” ตรวจจับได้ก่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งสัตวแพทย์และหมอเตือนอย่าได้คิดเปิบพิสดารสัตว์ป่า
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีครูสาวชาวไทยที่มีผู้ติดตามทางเพจเฟซบุ๊กร่วม 1.2 ล้านคน เผยแพร่คลิปท้าลองเมนูกิน “ค้างคาว” จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจยึดซากค้างคาวได้อีก
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น (DLD-Quarantine and Inspection Canine unit) ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยว่า “สารวัตรบีเกิ้ล” ตรวจพบสัมภาระต้องสงสัยจากเที่ยวบินที่มาจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เมื่อเปิดดูพบวัตถุดิบของเมนูเปิบพิสดาร ดังนี้
– ค้างคาวรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม
– ขาหมูรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม
– หมูสามชั้นรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม
สำหรับการลักลอบนำซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่จึงอายัดและเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติทำลายตามระเบียบกรมปศุสัตว์ เพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จากซากสุกร ซึ่งโรค ASF เป็นโรคติดเชื้อในสุกร และโรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ที่มีค้างคาวเป็นแหล่งรังโรค ก่อให้เกิดการติดเชื้อทางระบบหายใจอย่างรุนแรง เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เกิดภาวะสมองอักเสบจนอันตรายถึงชีวิตได้
ก่อนหน้านี้ น.สพ.เกษตร สุเตชะ อาจารย์คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วงว่า อาจจะก่อให้เกิดโรคระบาดที่มีค้างคาวเป็นต้นตอของโรคอีก เพราะค้างคาวเป็นแหล่งรังโรคและเป็นสัตว์ที่สะสมเชื้อโรคเยอะมาก
ที่ผ่านมามีการเจอไวรัสมากกว่า 60 ชนิดในค้างคาว บางชนิดก็ก่อโรคในคนได้ และยังแพร่ระบาดไม่หายถึงทุกวันนี้ เช่น ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสอีโบลา ไวรัสซาร์ส ไวรัสเมอร์ส ไวรัสนิปาห์ ที่ทำให้เกิดโรคสมองอักเสบ
“อย่าลืมว่าต้นตอของโควิดที่อู่ฮั่นก็มาจากค้างคาวเช่นกัน นอกจากนี้ การจับค้างคาวมากินยังถือว่าผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 อีกด้วย” น.สพ.เกษตรกล่าวและพูดถึงกรณีคลิปครูสาวเปิบเมนูค้างคาวว่า เมื่อเกิดเรื่องแล้ว ผู้กระทำผิดกฎหมายแล้วก็จะมาบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ เพราะก่อนนำเสนอมีการคิดเอาไว้แล้วว่า เนื้อหาที่จะเสนอนั้นคืออะไร ออกไปแล้วปังแน่นอน
ผมห่วงว่าด้วยบทบาทหน้าที่และการมีผู้ติดตามจำนวนมาก อาจจะมีผู้หลงไปทำตามได้ จึงอยากให้ลบคลิปเหล่านั้นออก การนำเสนอเนื้อหาต่าง ๆ เข้าใจดีว่าคนเรามีสิทธิเสรีภาพ และนำเสนอเนื้อหาต้องการกระแส แต่ต้องมีความรับผิดชอบ มีเรื่องราวอีกมากให้นำมาเสนอ ไม่ทำให้สังคมและประเทศต้องบอบช้ำ 3 ปีที่ผ่านมาที่เกิดการระบาดของโควิด เราต่างสูญเสียอะไรไปเยอะแยะ มีคนล้มตายจำนวนมาก เศรษฐกิจพังไปทั่วโลก
น.สพ.เกษตรกล่าวแนะนำว่า ทางการจะต้องให้ความรู้ประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่องและวงกว้าง ถึงผลเสียของการกินค้างคาวทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และผิดกฎหมาย
ด้าน ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า สัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติเป็นแหล่งรังโรคที่มนุษย์ยังไม่เคยสัมผัส ซึ่งบางชนิดก็ติดเชื้อจากสัตว์มาสู่คนได้ โดยเฉพาะค้างคาวที่มีไวรัสเยอะมาก
“สัตว์รังโรคมักไม่แสดงอาการป่วย เราจึงไม่แนะนำให้กินสัตว์ป่าทุกชนิด เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไวรัส ตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าไปจับ” นพ.โอภาสกล่าว
….
ทัวร์ลงครูสาวลงคลิปโชว์กินค้างคาว ชาวเน็ตแห่วิจารณ์-ร้องสั่งสอบ
