ในประเทศ

ปิดดีลแล้ว ไทยจ่าย 1,400 ล้าน ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก ครบ 64 แมตช์

ฟุตบอลโลก

ปิดดีลแล้ว ! กกท. ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย จบดีลที่ 1,400 ล้าน ดูครบ 64 แมตช์ ตั้งแต่เปิดสนามถึงรอบชิงชนะเลิศ

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ซึ่งจะเริ่มแข่งขันในวันที่ 20 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ และยังติดขัดเรื่องการตกลงราคาค่าลิขสิทธิ์ ที่ทางฟีฟ่าลดราคาค่าลิขสิทธิ์ให้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ได้บรรลุข้อตกลงการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จำนวน 64 แมตช์ เรียบร้อยแล้ว ในมูลค่า 33 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,400 ล้านบาท

โดยต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการ โอลิมปิกสากล ไอโอซี และทางประธานฟีฟ่า ที่ประสานงานภาคเอกชนจนสำเร็จดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการเซ็นสัญญากับฟีฟ่า และดำเนินการเรื่องการเตรียมการถ่ายทอดสด

ก่อนหน้านี้ มีการรายงานข่าวว่า ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ทางฟีฟ่าและเอเย่นต์ เคาะราคาสิขสิทธิ์ไว้ที่ราว 1,600 ล้านบาท โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุน กทปส. ให้ กกท. เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม ที่ กกท. เสนอขอรับการสนับสนุนไป 1,600 ล้านบาท

ทำให้ กกท. ต้องหาภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนอีก 1,000 ล้านบาท โดยมีภาคเอกชน คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะสนับสนุนเงินราว 400-500 ล้านบาท ทำให้มีเงินสำหรับการซื้อลิขสิทธิ์รวม 1,100 ล้านบาท จากค่าลิขสิทธิ์ราว 1,600 ล้านบาท

ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กกท.ได้มีการเชิญ 21 ช่องทีวีดิจิทัล มาร่วมพูดคุยเรื่องการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ การดำเนินการถ่ายทอดสด กรณีได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และหลังจากนี้ กกท.จะมีการแถลงการได้รับสิทธิ รวมถึงช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดในเร็ววันนี้

สำหรับค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ที่มีการระบุว่า มีมูลค่าราว 1,400 ล้านบาท คิดเป็นค่าลิขสิทธิ์ 33 ล้านเหรียญ เมื่อคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยน จะอยู่ที่ราว 1,180 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมภาษี 15% ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันทำธุรกรรม และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต