โควิดสัปดาห์นี้ เข้า รพ.ทะลุ 4 พันคน เสียชีวิตเกิน 100 คน เฉลี่ยวันละ 15 คน

สถานการณ์โควิด จนถึงวันที่ 3 ธันวา

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ประจำสัปดาห์ ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่ง 4,284 ราย เสียชีวิต 105 ราย เฉลี่ยวันละ 15 ราย 

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2565

ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) จำนวน 4,284 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 612 ราย/วัน ผู้เสียชีวิต (รายสัปดาห์) จำนวน 105 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 15 ราย/วัน

หายป่วยสะสม 2,488,093 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) เสียชีวิตสะสม 11,587 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)

ขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์รายสัปดาห์ มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 632 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 349 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2565)

ก่อนหน้านี้ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้พบผู้ติดเชื้อและป่วยด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอากาศเริ่มเย็นลง และมีการเปิดเทอม รวมถึงมีวันหยุดยาว ประชาชนจึงเดินทางออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ

จึงขอแนะนำกลุ่มเสี่ยงได้แก่ผู้สูงอายุ ทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือนแล้ว เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว

10 มาตรการป้องกันโควิด

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค ยังแนะนำมาตรการป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ดังนี้

1) ประชาชนควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบ 4 เข็ม ซึ่งสามารถเดินทางไปฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

2) กลุ่มเสี่ยง 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือฉีดเข็มสุดท้ายเกิน 6 เดือนแล้ว สามารถรับการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Long-acting Antibodies; LAAB) ซึ่งจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ที่ตอบสนองต่อวัคซีนได้น้อยกว่าคนทั่วไป เมื่อฉีดเข้าไปแล้วร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิดได้สูงทันทีหลังฉีด

3) สำหรับผู้ที่ไปทำกิจกรรมในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้สูงอายุที่ยังไม้ได้ฉีดวัคซีน

4) กลุ่มเสี่ยง 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือฉีดเข็มสุดท้ายเกิน 6 เดือนแล้ว ให้งดทานข้าวร่วมกับผู้อื่น หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากโดยไม่สวมหน้ากาก

5) ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ เช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และรถโดยสารขนส่งสาธารณะ รวมทั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19