ชัยวัฒน์ ให้ปากคำเพิ่ม คดีส่วยอธิบดีกรมอุทยานฯ ใครเป็นใครบนซองเงิน

ชัยวัฒน์ คดีสินบนอธิบดีกรมอุทยานฯ

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้แจ้งเบาะแสคดีอธิบดีกรมอุทยานรับสินบน เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับบุคคลที่ปรากฏชื่อบนซองเงิน

วันที่ 4 มกราคม 2566 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) หลังจากเป็นคนยื่นข้อมูลหลักฐานให้ ตรวจสอบนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ที่มีการเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า เคยนำเอกสารข้อมูล เข้าไปให้ปากคำและรายละเอียดให้กับกรรมการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนที่จะเดินทางมายัง บก.ปปป. วันนี้ เพื่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายชื่อบุคคลที่ปรากฏบนซองเงินว่า เป็นใครบ้าง อยู่ส่วนไหนบ้าง และเชื่อมั่นในหลักฐานของ ปปป.และ ป.ป.ช. ที่เข้าไปตรวจค้น และมีการถ่ายคลิปไว้อย่างชัดเจน

“ยืนยันว่าที่ออกมาครั้งนี้ไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือมีข้อขัดแย้งส่วนตัว และไม่คิดว่าจะมีการล้มคดีด้วย เพราะสังคมเห็นพฤติกรรมกันหมดแล้ว” นายชัยวัฒน์ กล่าวและว่า ข้อมูลที่ตนเองได้มา รับรู้มาตลอดตั้งแต่กลับเข้ามารับตำแหน่ง ว่ามีการรังแกมาโดยตลอด ต้องมีการจ่ายรายเดือน การเก็บเปอร์เซนต์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยเดือดร้อน ในการใช้ชีวิตราชการอีกด้วย

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565 เคยเข้าไปคุยกับนายรัชฎา หลังจากพยายามติดต่อผ่านหน้าห้อง ถึง 2 ครั้ง โดยเคยขอว่า “ อย่าเก็บเลย” เพราะลูกน้องชั้นผู้น้อยที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา มีความเดือดร้อน ตอนนั้นทางอธิบดีฯยืนกรานว่ให้จ่าย” ตนเองจึงพูดทิ้งท้ายไว้ว่า “สุดท้ายผมต้องจ่ายใช่ไหม” ก่อนจะตัดสินใจนำข้อมูลส่งให้ปปช. พร้อมนำเงิน จำนวน 98,000 บาท ไปมอบให้ ก่อนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการจ่ายเงินแบบนี้ภายในองค์กรหรือไม่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การให้เป็นวัฒนธรรมของคนไทย ทั้งการให้ด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ก็ยอมรับว่ามี แต่วัฒนธรรมการเรียกเก็บแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน ที่เรียกเก็บทุกเม็ดทุกขั้นแบบนี้มาก่อน ส่วนใครจะจ่ายหรือไม่จ่ายตนไม่รู้เห็น ซึ่งตั้งแต่ทำงานมาก็ไม่เคยต้องจ่ายหรือเรียกเก็บใครมาก่อน

“ปัจจุบันมีการจ่ายให้ในลักษณะทอนเงินบริหาร ในอัตรา 18.5 ต่อไป เช่นงบลงไป 100 บาท ก็ต้องทอนคืน 18.50 บาท จากนั้นก็นำมาหาร 12 เดือนเพื่อเป็นจำนวนยอดจัดส่งรายเดือน หลังจากที่เรื่องถูกเปิดเผยขึ้น ก็มีหลายส่วนที่เข้ามาให้กำลังใจ และขอบคุณที่ทำเผื่อพวกเขา จะมีเพียงบางส่วนที่เป็นกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ก็มีการข่มขู่ผ่านแชททางไลน์ ซึ่งไม่ได้สนใจและไม่ได้กลัวอะไร”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัยวัฒน์และนายรัชฎาก็ถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่จบมาจากสถาบันเดียวกัน นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ไม่ได้สนว่าจะจบจากมหาลัยเดียวกัน หรือเป็นเจ้านาย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องรับผิด ยึดการพิทักษ์ป่าเป็นหลัก และเชื่อมั่นว่า ป.ป.ช.และ บก.ปปป. มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้

สำหรับนายชัยวัฒน์ ถูกดำเนินคดีพร้อมพวกอีก 4 คน ในคดีฆาตกรรมบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ทางอัยการสูงสุดได้ลงนามในความเห็นสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับฟ้องและให้ประกันตัวเป็นวงเงินคนละ 800,000 บาท เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2565 โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่ศาลอนุญาต และห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน