ระงับ เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้าน ผู้ว่าการรถไฟเผยเหตุผล

สถานีกลางบางซื่อ
ภาพจาก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

การรถไฟฯยอมถอย ส่งหนังสือแจ้งผู้รับเหมา ระงับ ปรับปรุงป้ายสถานีกลางบางซื่อ ออกไปก่อน

วันที่ 10 มกราคม 2566 มติชนรายงานว่า จากกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่าจ้างบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) แบบวิธีพิเศษ เพื่อเปลี่ยนชื่อป้ายสถานีกลางบางซื่อเป็น สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ด้วยมูลค่า 33 ล้านบาท ซึ่งมองว่าแพงเกินไปนั้น

ล่าสุดมีการเผยแพร่เอกสาร ร.ฟ.ท. มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 9 มกราคม 2566 ถึงบริษัท ยูนิคฯ เพื่อแจ้งเรื่องระงับงานรื้อย้าย จัดหา และติดตั้งงานก่อสร้างปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ออกไปก่อน และจะแจ้งให้ทราบในเวลาต่อไป

หนังสือด่วน
ภาพจาก มติชน

การรถไฟฯยันเอกสารจริง รอผล คกก.สอบ

ต่อมา นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เอกสารที่เผยแพร่ตามสังคมออนไลน์ในขณะนี้ ขอยืนยันว่าเป็นเอกสารจริง

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าการการรถไฟฯ ที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ จึงได้ทำการระงับการรื้อย้าย จัดหาและติดตั้งป้ายสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ออกไปก่อน โดยแจ้งไปยังผู้รับจ้าง

ถ้าอธิบายในอีกแง่มุมหนึ่งเป็นการชะลอโครงการเพื่อรอการพิจารณาของคณะกรรมการของกระทรวงคมนาคม

ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยขอยืนยันว่า การว่าจ้างดังกล่าวถูกต้องตามหลักกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาลทุกประการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยได้มีการเรียกผู้บริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทยไปชี้แจง

ด้าน นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เหตุผลที่ระงับการเข้าพื้นที่ก่อสร้างของผู้รับจ้างเนื่องมาจากความคลางแคลงสงสัยของประชาชน ดังนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทยยืนยันว่าจะดำเนินการอธิบายจนความคลางแคลงนั้นหมดไป


สำหรับการระงับเข้าพื้นที่เพื่อก่อสร้างนั้นเนื่องจากยังไม่มีการเริ่มก่อสร้าง จึงมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าการระงับดังกล่าวจะไม่เกิดความเสียหายใด ๆ ต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย