กรมเจ้าท่าเดินหน้าเอาผิดเรือปานามาทำน้ำมันรั่วที่ท่าเรือแหลมฉบัง โทษชดใช้ค่าใช้จ่ายกำจัดน้ำมัน-จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้จัดการแถลงข่าวกรณีเรือขนน้ำมันได้ทำน้ำมันรั่วไหลประมาณ 2,000 ลิตร ที่ท่าเรือแหลมฉบังว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาชลบุรี และสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล ได้รับแจ้งพบคราบน้ำมันรั่วไหลบริเวณข้างเรือ MSC ALXEA สัญชาติ PANAMA IMO Numer. 9129873 ขนาด 42307 Grt. กัปตันเรือชื่อ Vujosevic Svetozar ณ เทียบท่า C2 ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
จากการสอบสวนข้อมูลเบื้องต้น กัปตันเรือให้การว่า ทำการปั๊มน้ำอับเฉาเรือออกนอกตัวเรือ จึงทำให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหลออกมาด้วย ปริมาณประมาณ 2,000 ลิตร
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือในท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากสามารถควบคุมพื้นที่ในการรั่วไหลได้อย่างทันท่วงที
ทางกรมเจ้าท่าจึงได้ประสานบริษัทรับขจัดคราบน้ำมันเข้าพื้นที่เพื่อขจัดคราบน้ำมัน และใช้บูมล้อมบริเวณท้ายเรือเพื่อป้องกันการกระจายพื้นที่ของน้ำมัน ปัจจุบันสามารถกำจัดคราบน้ำมันได้ประมาณ 80% แล้ว
อีกทั้งกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการรวบรวมเอกสารดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษกับเจ้าของเรือและผู้ควบคุมเรือ กับสถานีตำรวจภูธรตำบลแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ในข้อหาการกระทำความผิดตามมาตรา 119 ทวิ ของพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พร้อมแจ้งตัวแทนเจ้าของเรือให้ทราบว่าเจ้าของเรือต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งผู้แทนเจ้าของเรือรับทราบและประสานประกันภัยรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มาตรา 119 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย บัญญัติไว้ว่า
ห้ามมิให้ผู้ใดเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใด ๆ ให้น้ำมันและเคมีภัณฑ์ หรือสิ่งใด ๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทยอันอาจจะเป็นเหตุให้เกิดการเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต หรือต่อสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบดังกล่าว
ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการแก้ไขสิ่งเป็นพิษ หรือชดใช้ค่าเสียหายเหล่านั้นด้วย
