2 กระทรวง ถกปมน้ำมันรั่วรอบสอง SPRC ยัน เอาผิดทั้งแพ่ง อาญา

ภาพ : จากเพจ สวท.ระยอง

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม – กระทรวงอุตสาหกรรม ถกด่วน ปมน้ำมันรั่วซ้ำรอบ 2 พื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ของ SPRC หวั่นชาวบ้านได้รับผลกระทบ ลามการท่องเที่ยว เผยบริษัทฯยืนยันพร้อมรับผิดชอบทั้งหมด “วราวุธ” ยันแจ้งดำเนินคดีรอบที่ 2 แล้ว ทั้งทางแพ่งและอาญา

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลังการประชุม กรณีน้ำมันรั่วเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPRC ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1 ได้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันค้างท่อจำนวนประมาณ 5,000 ลิตร ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม ว่า ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหามาตรการเพื่อรองรับและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

รวมถึงเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และห้ามให้คราบน้ำมันขึ้นสู่ชายหาดอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันผลกระทบทางการท่องเที่ยวและชาวบ้าน พร้อมทั้งกำลังพิจารณาว่าจะมีการนำสาร Dispersant (สารที่ใช้ในการกำจัดคราบน้ำมัน) มาใช้เพิ่มในการขจัดคราบน้ำมันหรือไม่ ขณะเดียวกันขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการทำงานของท่อที่อยู่ใต้ทะเล และท่อที่อยู่ในลักษณะเดียวกันนี้ว่ามีที่ไหนบ้าง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อหารือถึงมาตรการและแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำในลักษณะนี้อีกในอนาคตและระยะยาว

ซึ่งได้กำชับในเรื่องของการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขี้นด้วย โดยบริษัทฯ ได้ยืนยันว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบทั้งหมด ทั้งนี้ ล่าสุดได้แจ้งดำเนินคดีแล้ว ทั้งทางแพ่งและอาญา และสิ่งที่กระทรวงเสนอทางบริษัทไป ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

“ผมขอให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันขึ้นสู่ชายหาด ทั้งที่หาดแม่รำพึง หรือที่อ่าวพร้าว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการท่องเที่ยวในพื้นที่ บริษัทได้ยืนยันว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบทั้งหมด และผมได้แจ้งดำเนินคดีอีกรอบแล้วทั้งทางแพ่งและอาญา สิ่งที่กระทรวงเสนอไป บริษัทต้องทำให้ได้ ซึ่งบริษัทนี้ ทำธุรกิจมา30 ปีแล้วทำไมจึงเกิดเหตุการณ์ซ้ำเช่นนี้ หลังจากนี้ต้องไม่เกิดเหตุซ้ำแล้วซ้ำอีก” นายวราวุธกล่าว

ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้หยุดกิจกรรมบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลตามขั้นตอนความปลอดภัย และดำเนินการนำทุ่นกักน้ำมัน (boom) กักคราบน้ำมันไว้ พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน โดยเบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

ทั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกำชับให้ กนอ.ประสานให้บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC พูดคุยกับสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) เพื่อขอ Boom มาเพิ่มในการจัดการกับคราบน้ำมันให้เร็วขึ้น ป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันเข้าสู่ชายหาด

“กนอ.ขอย้ำอีกครั้งว่า แม้ปัจจุบัน กนอ.และกระทรวงอุตสาหกรรมจะไม่มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรง แต่ยืนยันว่า กนอ.ยินดีสนับสนุนการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และจะพยายามมีส่วนร่วมในการป้องกันอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต”นายวีริศ กล่าว

สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม ผู้แทนจากกองทัพเรือ ภาคที่ 1 และผู้แทนจังหวัดระยอง เข้าร่วมการประชุมด้วย