ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ที.ที.เอส.สตีล กับอีก 2 บริษัท ถูกกรุงไทยฟ้องล้มละลาย

ประกาศราชกิจจานุเบกษา-ราชกิจจาฯ ประกาศ

ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัท ที.ที.เอส.สตีล จำกัด กับอีก 2 บริษัท โรงงานไทยเจริญเหล็กเส้น จำกัด และบริษัท ยู.เค.สตีล จำกัด จ.สมุทรปราการ ถูกธนาคารกรุงไทยฟ้องล้มละลาย

วันที่ 19 มิถุนายน 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.2892/2566 ศาลล้มละลายกลาง กองบังคับคดีล้มละลาย 2 กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม

ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้ลูกหนี้ทั้งสามล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ที.ที.เอส. สตีล จำกัด ลูกหนี้ที่ 1, บริษัท โรงงานไทยเจริญเหล็กเส้น จำกัด ลูกหนี้ที่ 2 และบริษัท ยูเคสตีล จำกัด ลูกหนี้ที่ 3 เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติลัมละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว

  • ลูกหนี้ที่ 1 ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0115537002468 ที่อยู่ 298 หมู่ที่ 6 ซอย ส.ไทยเสรี 2 ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
  • ลูกหนี้ที่ 2 ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105517007928 ที่อยู่ 92 หมู่ที่ 11 ซอยกลับเจริญ 2 ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
  • ลูกหนี้ที่ 3 ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105529014690 ที่อยู่ 94/9 หมู่ที่ 19 ซอยสุขสวัสดิ์ 66 ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา 24/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483

ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา 24/1 แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา 173/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483

อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ จะเป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดี ซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันที่โฆษณาคำสั่งนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ซึ่งตรวจได้จากเว็บไซต์ของกลุ่มงานราชกิจจานุเบกษาที่ https://ratchakitcha.soc.go.th

ADVERTISMENT

พิทักษ์ทรัพย์ ทีทีเอสสตีล