
อัพเดต วันที่ 29 ม.ค.2568 (เวลา 13.28 น.)
เงินดิจิทัล 10,000 บาท คนไม่มีสมาร์ทโฟน เตรียมเปิดลงทะเบียน ขอเวลาอีกไม่นาน ระบบเดินหน้าตามที่แจ้งไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เปิดตัวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (โครงการ) ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นวันที่กรมบัญชีกลางได้โอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิของโครงการ จำนวน 3,025,596 ราย
เฟส 2 โอนเงินไม่สำเร็จ มีการจ่ายเงินซ้ำ 3 ครั้ง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถตรวจสอบผลการจ่ายเงินได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ได้ในวันที่ 28 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยหากปรากฏผลว่าโอนเงินไม่สำเร็จ กระทรวงการคลังจะมีการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีกจำนวน 3 ครั้ง
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินการผูกบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน และในกรณีมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนอยู่แล้ว ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่าบัญชีดังกล่าวยังคงมีสถานะปกติที่สามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในรอบถัดไป ดังนี้
- ครั้งที่ 1 28 กุมภาพันธ์ 2568 25 กุมภาพันธ์ 2568
- ครั้งที่ 2 28 มีนาคม 2568 25 มีนาคม 2568
- ครั้งที่ 3 28 เมษายน 2568 23 เมษายน 2568
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 ได้ช่วงไตรมาส 2
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังยืนยันตามเดิม ว่าจะเดินหน้าไทม์ไลน์เดิมเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต หรือการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ในช่วงไตรมาส 2 ไม่มีเปลี่ยนแปลง
ส่วนวงเงินเตรียมรอไว้ไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดพร้อมดำเนินการ ระบบเดินหน้าได้ตามที่แจ้งไว้ ทุกฝ่ายก็แสดงเจตจำนง พร้อมเข้าร่วมโครงการนี้ เหลือเพียงการทำระบบต่าง ๆ ให้เรียบร้อย และมีกลไกในการตรวจสอบ รวมถึงการทดสอบระบบจ่ายเงินอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ ทั้งหมดยังอยู่ในกรอบเวลา มั่นใจว่าจะเดินหน้าในช่วงเดือน เม.ย.ถึง มิ.ย. 2568
“การเชื่อมต่อระบบการชำระเงินนั้น ไม่นานมานี้ได้หารือร่วมกับสถาบันการเงินทุกแห่ง เกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบ Open Loop ร่วมกัน ซึ่งทุกแห่งแสดงความพร้อมในการเข้าร่วมระบบแล้ว เหลือเพียงแค่ขั้นตอนในรายละเอียดปลีกย่อย และมีระยะเวลาในการทดสอบระบบ ซึ่งทั้งหมดนั้นยืนยันว่า อยู่ในกรอบเวลาที่ตั้งไว้ และจะเสร็จทันในช่วงไตรมาสที่ 2 อย่างแน่นอน โดยระบบที่ใช้เป็นระบบจ่ายเงินในวอลเลตแบบใหม่ มีบล็อกเชนเป็นฐานข้อมูล และยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ” รมช.คลังกล่าว
กลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน ขอเวลาอีกไม่นาน
ส่วนกรณีกลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน และยังรอเงินหมื่นอยู่ ยืนยันจะเปิดให้มีการลงทะเบียนต่อไป ขอเวลาอีกประมาณ 2 เดือน โดยยืนยันว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะระบบในการลงทะเบียนพร้อมหมดทุกอย่าง ขณะนี้อยู่ที่ขั้นตอนการนำเข้าสู่คณะกรรมการ เพื่อให้มีการสั่งการอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การดําเนินการกับคนกลุ่มนี้ มีความซับซ้อนน้อยกว่าการลงทะเบียนผ่านระบบดิจิทัลวอลเลตด้วยซํ้า
“ประชาชนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน น่าจะมีไม่ถึง 1 ล้านคน ส่วนมากน่าจะอยู่ที่กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านบาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 1 ไปแล้ว จึงเชื่อว่าอีกไม่นานระบบการลงทะเบียนจะพร้อม แต่ต้องนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการเพื่อเห็นชอบก่อน โดยคนกลุ่มนี้น่าจะมีความซับซ้อนน้อยกว่าการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต” นายจุลพันธ์กล่าว
วิธีตรวจสอบสิทธิเงินดิจิทัล บนแอปทางรัฐ
1.เปิดแอปทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
2.ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่มยืนยันข้อมูล
3.กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
4.กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ
5.กดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
6.ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าอยู่ในขั้นตอนใด หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือไม่ได้รับสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ช่องทางสอบถามข้อมูล
1.ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิ และผลการได้รับเงินในโครงการแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ”
2.เว็บเพจรวบรวมข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของโครงการ เว็บไซต์กระทรวงการคลัง www.mof.go.th แบนเนอร์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (https://mof.go.th/th/detail/2024-12-27-15-36-42/2024-12-27-15-42-50)
3.Call Center สำหรับสอบถามข้อมูลโครงการ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน สายด่วน 1111