
โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว เช็กวิธีสมัคร-ลงทะเบียน สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ มีธนาคารใดบ้าง ล่าสุดยอดลงทะเบียนทะลักกว่า 5 แสนราย เฉียด 6 แสนบัญชี เตือนหมดเขตวันสุดท้าย วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.หรือสภาพัฒน์) สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ได้ประกาศเปิดโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”
เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และ SMEs โดยครอบคลุมลูกหนี้รวมจำนวน 2.1 ล้านบัญชี เป็นลูกหนี้ 1.9 ล้านราย และมียอดหนี้รวมประมาณ 8.9 แสนล้านบาท โดยเปิดให้ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567-28 กุมภาพันธ์ 2568
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย หรือโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มกราคม 2568) มีลูกหนี้ผู้แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการและอยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิแล้ว 497,552 ราย เป็นจำนวน 576,496 บัญชี ยังไม่นับรวมส่วนที่ลงทะเบียนตรงกับสถาบันการเงิน
“คุณสู้ เราช่วย” มี 2 มาตรการ
1.มาตรการที่ 1 “จ่ายตรง คงทรัพย์” ช่วยลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ขนาดเล็กที่มีวงเงินไม่สูงมากให้สามารถคงทรัพย์สินที่ใช้ในการดำรงชีพและประกอบอาชีพเอาไว้ได้ สำหรับสินเชื่อบ้าน/Home for Cash ไม่เกิน 5 ล้านบาท สินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 800,000 บาท สินเชื่อรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 50,000 บาท และสินเชื่อ SMEs ไม่เกิน 5 ล้านบาท
โดยมาตรการดังกลาวจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้และลดค่างวดในปีที่ 1 เหลือ 50% ในปีที่ 2 เหลือ 70% ในปีที่ 3 เหลือ 90% และ “พักภาระดอกเบี้ย” เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดชำระเงินต้นทั้งหมด ขณะที่ “ดอกเบี้ยที่พักไว้ตลอดระยะเวลา 3 ปี จะได้รับการยกเว้น” ตามเงื่อนไข
2.มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ” ช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่ NPL แต่มียอดคงค้างหนี้ไม่สูง (ไม่เกิน 5,000 บาท) โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ขั้นต่ำเพียง 10% ของยอดหนี้คงค้างเพื่อ “ปิดหนี้ได้ทันที”
ประชาชนสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ระบบลงทะเบียนของ ธปท. (www.bot.or.th/khunsoo) หรือติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมโครงการทุกแห่ง ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
วิธีลงทะเบียน “คุณสู้ เราช่วย”
สำหรับผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://www.bot.or.th/khunsoo โดยมีขั้นตอนการลงทะเบียนดังนี้
1. เข้าสู่เว็บไซต์ “คุณสู้ เราช่วย” : https://www.bot.or.th/khunsoo
2. ตรวจสอบรายละเอียดมาตรการ คุณสมบัติ และเงื่อนไขการเข้าร่วมก่อนลงทะเบียน จากนั้นกดยอมรับ
3. สมัครเข้าใช้ระบบด้วยอีเมล์ หรือแอปพลิเคชั่น ThaID โดยสแกน QR บนแอป เพื่อยืนยันตัวตน
4. กรอกข้อมูลลงทะเบียนให้ครบถ้วน ได้แก่ ชื่อ-สกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์ติดต่อ และอีเมล์
5. ส่งคำขอแก้หนี้ โดยเลือกผู้ให้บริการที่ต้องการเข้าร่วม และผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้าร่วม หากมีผู้ให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้าร่วมมากกว่า 1 แห่ง/ประเภท สามารถกดเพิ่มได้
6. ลงทะเบียนเสร็จสิ้น ลูกหนี้เก็บหมายเลขคำร้องไว้เพื่อติดตามสถานะการลงทะเบียน
ทั้งนี้เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ทางเจ้าหนี้จะเริ่มติดต่อกลับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 68 เป็นต้นไป สามารถตรวจสอบสถานะได้ทางเว็บไซต์ โครงการ “คุณสู้ เราช่วย”
สถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการ
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารทิสโก้
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ธนาคารอื่น ๆ (ตรวจสอบรายชื่อสถาบันการเงินที่นี่)
10 คำถาม-คำตอบ “คุณสู้ เราช่วย” ที่คนมักเข้าใจผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่คำถาม-ตอบ 10 ข้อเข้าใจผิดเกี่ยวกับโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ในส่วนของมาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์ และมาตรการจ่ายปิดจบ
1.มาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์ พิจารณาคุณสมบัติของลูกหนี้ที่เข้ามาตรการได้จากยอดหนี้คงค้าง เช่น กู้ซื้อบ้านวงเงิน 10 ล้านบาท เมื่อหลายปีก่อน แต่ ณ วัน Cutoff Date 31 ต.ค. 67 มียอดหนี้เหลือ 4 ล้านบาท ก็สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
-ไม่ใช่ มาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์ พิจารณาคุณสมบัติของลูกหนี้ที่เข้ามาตรการได้จากวงเงินไม่เกินที่กำหนด ไม่ใช่ยอดหนี้ เพราะต้องการช่วยคนตัวเล็ก จากตัวอย่างข้างต้น ลูกหนี้กู้ซื้อบ้านวงเงิน 10 ล้านบาท และมียอดหนี้เหลือ 4 ล้านบาท ก็จะไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
2.หากลูกหนี้มีสินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home for Cash) อย่างเดียว ไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
-ไม่จริง สามารถเข้ามาตรการจ่าย คงทรัพย์ได้ ถ้าวงเงินรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท รวมถึงมีคุณสมบัติอื่น ๆ ตามเกณฑ์
3.หากปัจจุบันลูกหนี้ยังไม่ค้างชำระ ให้เลิกจ่ายชำระหนี้เลย จะได้เข้ามาตรการได้
-ไม่จริง เนื่องจากมีการกำหนด Cutoff Date ณ 31 ต.ค. 67 หากเป็นหนี้เสียหลังจากนี้
จะไม่สามารถเข้ามาตรการได้ อย่างไรก็ดี หากลูกหนี้ประสบปัญหาการชำระหนี้ยังคงมีมาตรการอื่น ๆ รองรับ ให้ลูกหนี้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ได้
4.หากปัจจุบันลูกหนี้เข้าข่ายเข้ามาตรการได้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายชำระหนี้ต่อให้หยุดชำระหนี้เพื่อรอความช่วยเหลือ
-ไม่จริง หากลูกหนี้ยังสามารถชำระหนี้ได้ ลูกหนี้ยังคงต้องชำระหนี้ตามเงื่อนไขเดิม มิฉะนั้นจะส่งผลทำให้การแก้หนี้ของลูกหนี้จะยากขึ้นไปอีกเพราะมีหนี้ค้างชำระเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ลูกหนี้จะติดข้อมูลประวัติการค้างชำระไปที่เครดิตบูโรซึ่งจะส่งผลเสียต่อลูกหนี้เอง
5.หากลูกหนี้ไม่มีคุณสมบัติเข้ามาตรการนี้ได้ จะไม่ได้รับความช่วยเหลืออื่นจากสถาบันการเงิน
-ไม่จริง หากลูกหนี้ประสบปัญหาการชำระหนี้ ยังคงสามารถติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการ RL หรือมาตรการอื่น ๆ เช่น คลินิกแก้หนี้ ได้
6.หากลูกหนี้จะเข้ามาตรการ จะต้องจ่ายชำระหนี้ก่อน 1 งวด เป็นอย่างน้อยถึงจะเข้ามาตรการได้
-ไม่จริง หากลูกหนี้มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด สามารถเข้าร่วมมาตรการได้เลย โดยห้ามสถาบันการเงินกำหนดเงื่อนไขอื่นที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาตรการของลูกหนี้
7.ลูกหนี้จะต้องต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมมาตรการให้กับเจ้าหนี้ก่อนจึงจะสมัครเข้าร่วมมาตรการได้
-โครงการช่วยเหลือลูกหนี้ทุกโครงการจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกหนี้ก่อนเข้าร่วมโครงการ หากมีการเรียกเก็บให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ
8.การดูวงเงินรวมของลูกหนี้นับทุกประเภทสินเชื่อของลูกหนี้ในแต่ละสถาบันการเงินใช่หรือไม่
-ไม่ใช่ การดูวงเงินรวมให้ดูแยกตามประเภทสินเชื่อที่มีกับแต่ละสถาบันการเงิน
9.หากลูกหนี้เข้าร่วมมาตรการจะไม่สามารถใช้วงเงินบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสดเดิมได้ เพราะจะผิดเงื่อนไขมาตรการที่ห้ามก่อหนี้ใหม่ในช่วง 12 เดือนแรก ใช่หรือไม่
-ไม่ใช่ เนื่องจากการเบิกใช้สินเชื่อภายใต้วงเงินเดิม ไม่ถือเป็นการก่อหนี้ใหม่
มาตรการจ่ายปิดจบ
10.ลูกหนี้ต้องมีภาระหนี้ NPL คงค้างไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน จึงจะสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ใช่หรือไม่
-ไม่ใช่ ดูภาระหนี้ NPL คงค้างไม่เกิน 5,000 บาทต่อบัญชี หากมีหลายบัญชีสามารถเข้าร่วมมาตรการได้หลายบัญชี
ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบสถานะได้ทางเว็บไซต์ https://www.bot.or.th/khunsoo หรือ BOT Contact Center ของ ธปท. โทร.1213 หรือ Call Center ของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการและกดเบอร์ต่อ 99