
อัพเดตล่าสุด 2 เมษายน 2568 เวลา 11.10 น.
อัพเดตแผ่นดินไหวล่าสุด กรมอุตุฯสรุปเกิดอาฟเตอร์ช็อกแล้วรวม 266 ครั้ง มีขนาด 3.0-3.9 มากที่สุด 120 ครั้ง ล่าสุดเมียนมามีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก 38 ครั้ง ขณะที่ในไทยเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กตามมาช่วง 1-2 เมษายน 68 รวม 9 ครั้ง แรงสุดขนาด 2.2 ที่ ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เตือนภาคใต้รับมือฝนตกหนักช่วง 2-4 เมษายนนี้ เหตุมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน
วันที่ 2 เมษายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่ประเทศเมียนมา เมื่อ 28 มีนาคม 2568 ว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อก(Aftershocks)แล้ว รวมทั้งสิ้น 266 เหตุการณ์(ครั้ง) โดยมีขนาดของแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อกขนาด 3.0-3.9 มากที่สุด จำนวน 118 ครั้ง รองลงมาเป็นขนาด 1.0-2.9 รวม 80 ครั้ง และขนาด 4.0-4.9 รวม 56 ครั้ง ทั้งนี้มีขนาดรุนแรงมากที่สุด 7.0 ขึ้นไป 1 ครั้ง (อัพเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา10.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
ขนาดแผ่นดินไหว/ครั้ง
- ขนาด 1.0-2.9 จำนวน 80 ครั้ง
- ขนาด 3.0-3.9 จำนวน 120 ครั้ง
- ขนาด 4.0-4.9 จำนวน 56 ครั้ง
- ขนาด 5.0-5.9 จำนวน 9 ครั้ง
- ขนาด 6.0-6.9 จำนวน 0 ครั้ง
- ขนาด 7.0 ขึ้นไป จำนวน 1 ครั้ง
ส่วนสถานการณ์แผ่นดินไหว(ช่วงวันที่ 1 – 2 เม.ย. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศไทย จำนวน 9 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา จำนวน 38 ครั้ง และประเทศลาว 1 ครั้ง
ล่าสุดของไทย เมื่อเวลา 08.17 น. วันที่ 2 เมษายน 2568 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 1.4 ที่ ต.บ้านโป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยก่อนหน้าเมื่อเวลา 07.47 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.2 ที่ ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
ขนาดแผ่นดินไหวในไทย
- 1 เมษายน 2568 เวลา 23.26 . แผ่นดินไหวขนาด 1.8 ที่ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ. แม่ฮ่องสอน
- 2 เมษายน 2568 เวลา 01.37 น. แผ่นดินไหวขนาด 1.3 ต. ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
- 2 เมษายน 2568 เวลา 02.56 น. แผ่นดินไหวขนาด 1.5 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
- 2 เมษายน 2568 เวลา 07.47 น. แผ่นดินไหวขนาด 2.2 ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
- 2 เมษายน 2568 เวลา 08.17 น. แผ่นดินไหวขนาด 1.4 ต.บ้านโป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
กรมอุตุนิยมวิทยายังพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าว่า ในช่วงวันที่ 2 – 4 เม.ย. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 8 เม.ย. จะมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 2 – 4 เม.ย. คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 8 เม.ย. ลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 2 – 4 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ส่วนสถานการณ์แผ่นดินไหว(ช่วงวันที่ 1 – 2 เม.ย. 68): ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว มีศูนย์กลางอยู่ในประเทศไทย จำนวน 9 ครั้ง มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา จำนวน 38 ครั้ง ประเทศลาว 1 ครั้ง
