สธ.แถลงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มอีก 11 ราย เป็นกลุ่มเดียวกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน

กระทรวงสาธารณสุข เผยวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นกลุ่มก้อน 11 ราย ทั้งหมดเป็นคนไทย อายุ 25 – 38 ปี เป็นการค้นพบจากการขยายการคัดกรองการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน และมีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้ 1 ราย สรุปผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านแล้ว 35 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 34 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 70 ราย

วันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุขุม  กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ในวันนี้ มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้ 1 ราย เป็นหญิงอายุ 62 ปี รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และพบผู้ป่วยยืนยันเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นการค้นพบจากการขยายการคัดกรองการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน โดยสรุปวันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 35 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 34 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสม 70 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

สำหรับกลุ่มดังกล่าวมีด้วยกัน 15 คน คนในกลุ่มนี้ติดเชื้อ 11 คน  โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้รับรายงานผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ให้ประวัติว่า  เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ได้พบปะกลุ่มเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงที่มาเที่ยวเมืองไทย หลังจากนั้น 4 วัน (วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563) เริ่มป่วยด้วยอาการไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ไอ ในขณะที่มีอาการป่วยอยู่นั้นได้นัดสังสรรค์กับเพื่อนสนิทอีก 2 ครั้ง (วันที่ 27 และ 29 กุมภาพันธ์ 2563) โดยมีพฤติกรรมดื่มสุราแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน

หลังจากนั้นในวันที่ 4 มีนาคม 2563 ผู้ร่วมสังสรรค์เริ่มทยอยป่วย 7 คนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยตรวจพบการติดเชื้อ 11 คนจากทั้งหมด 15 คน (รวมผู้ป่วย) เป็นชาย 5 คน หญิง 6 คน ช่วงอายุ 25 – 38 ปี ในจำนวนนี้มี 4 คนที่ไม่ป่วยเเละไม่ติดเชื้อ ทั้งหมดให้ประวัติว่า ไม่ได้ดื่มเหล้าเเละสูบบุหรี่ร่วมกับกลุ่มเพื่อน กระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามครอบครัวและเพื่อนที่ไม่ได้ร่วมกลุ่มสังสรรค์เบื้องต้น 70 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการครั้งแรกไม่พบเชื้อ จึงไม่พบหลักฐานว่าเกิด super spreading เนื่องจากเป็นการติดเชื้อในกลุ่มเพื่อนสนิทที่ร่วมวงสังสรรค์ ยังไม่ออกนอกกลุ่ม แต่ยังเฝ้าระวังกลุ่มคนเหล่านี้อยู่

ทั้งนี้พบว่า พฤติกรรมคืออยู่ในที่แคบ ดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน โดยพบว่า คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ และดื่มเหล้าแก้วเดียวกันนั้น ไม่ติดโรค นอกจากนี้ ได้ขยายวงสอบสวนโรคไปที่งานแต่งงานที่คนกลุ่มนี้เข้าไปร่วมงาน แต่ไม่พบการเจ็บป่วยที่ผิดปกติ จากกรณีดังกล่าวพบว่า เป็นบทเรียนสำคัญในการยกระดับการตรวจเป็นกลุ่มก้อน และยืนยันว่า การกักตัวเองเมื่อป่วยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

จากการติดเชื้อในกลุ่มก้อนครั้งนี้ ยังยืนยันว่าเรายังเป็นระยะที่ 2 เนื่องจากเป็นการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในวงจำกัด เป็นคำนิยามที่เราดูแลตั้งแต่ต้น ไม่ได้เผยแพร่ออกไปสู่คนอื่น  และไม่ถือว่าเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ ซึ่งการที่ประเทศไทยยังเป็นระยะ 2 ถือว่าเป็นความร่วมมือจากทุกคน ที่ช่วยกันป้องกันตนเอง ซึ่งการกักตนเองหลังจากกลับจากประเทศเสี่ยงนับเป็นมาตรการสำคัญอย่างยิ่ง

สำหรับในสถานการณ์โรคระบาด มาตรการที่เราให้คำแนะนำคือ การดูแลตัวเอง กินร้อน ช้อนกลาง หลีกเลี่ยงชุมชน ใช้หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะกรณีมีเพื่อนมาจากต่างประเทศ ถ้าไม่มีคามจำเป็นก็ไม่ควรไปร่วมกิจกรรม หรืออยู่ใกล้ชิด ใช้ของร่วมกับคนอื่น เป็นเรื่องที่เราได้เตือนไว้แล้ว เมื่อเจ็บป่วยควรจะพักอยู่ที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยง

นายแพทย์สุขุมกล่าวว่า จากการที่เราติดเป็นกลุ่มก้อนครั้งนี้ ไม่ใช่ระยะที่ 3 เรายังเป็นระยะ 2 เนื่องจากการติดต่อกันในวงจำกัด

“สิ่งที่ชัดเจนในครั้งนี้คือ บริโภคดื่มเหล้า สูบบุหรี่มวนเดียวกัน กินข้าวสำรับเดียวกันดดยไม่ใช้ช้อนกลาง ทำให้เกิดการติดโรคพร้อมกันถึง11คน เป็นบทเรียนที่สำคัญ” นายแพทย์สุขุมกล่าว

โพสต์โดย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ วันพุธที่ 11 มีนาคม 2020