
วันที่ 23 มีนาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 10 และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัด สธ. แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นพ.ทวีศิลป์ แถลงว่า สถานการณ์ในประเทศไทย ขณะนี้มีผู้ป่วยหายกลับบ้านเพิ่ม 7 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มใหม่อีก 122 ราย นับเป็นรายที่ 600-721 ราย ในจำนวนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงแล้ว และว่า สรุปรวมประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยัน 721 ราย กลับบ้านแล้ว 52 ราย และรักษาอยู่ในโรงพยาบาล จำนวน 668 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก 7 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
• ผู้ป่วยมาจากสนามมวย 4 ราย พี่เลี้ยงนักมวย ผู้ชม พบผู้ป่วย ที่นนทบุรี นครปฐม อุบลราชธานี
• ผู้ป่วยที่สัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 16 ราย คือ จากการสังสรรค์ ชาวต่างชาติ นั่งรถคันเดียวกัน พนักงานส่งของ ประชุมร่วมกัน รับประทานอาหารด้วยกัน พนักงานนวด นักเรียน พนักงานบริษัท ญาติ กทม. อุบล ศีรษะเกษ
• ผู้ป่วยรายใหม่ 10 ราย กลับจากต่างประเทศเป็นต่างชาติ 4 ราย ชาวไทย 2 ราย กลับจากปอยเปต
• ทำงานอาศัยในสถานที่แออัด เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 6 ราย เป็นพนักงานผับ บาร์ ดีเจในผับ ขับรถรับส่ง อยู่ใน ภูเก็ต ร้อยเอ็ด กระบี่ สุราษฎร์ธานี
• พบเชื้อและอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 92 ราย
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รอดปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีคนถามว่าจากตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น แล้วจะเป็นอย่างไรกันต่อไป หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งเราไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
ล่าสุดสาธารณสุขได้จัดทำกราฟขึ้น โดยใช้ข้อมูลสถิติที่เป็นวิทยาศาสตร์ว่าประเทศไหน ถ้าผู้ป่วยเข้าสู่ 100 เคสแล้ว การคาดการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ต่อไป นั่นหมายความว่า เมื่อตัวเลขเกิน100 รายแล้ว ตัวเลขจะวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ยุโรป อิตาลี อิหร่าน
จากกราฟจะเห็นว่าประเทศในกลุ่มยุโรปจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัญหาคือระบบสาธารณสุขรองรับไม่ทัน เช่น อิตาลี อเมริกา อังกฤษ เสียชีวิตกันเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันประเทศเพื่อนบ้านเรา อย่างญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ตัวเลขที่มันเคลื่อนที่ไปจำนวนหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายตัวเลขมันถูกเบนออกไป คือไม่เพิ่มมาก
เพราะฉะนั้นวันนี้ เราอยู่ที่ตัวเลข 721 นั่นหมายความว่าเรายังยู่ในระยะ “โกลด์เด้นพิเรียด” หรือทางการแพทย์เรียกว่า “เวลาทอง” กล่าวคือถ้าเราไม่มีวินัยอย่างเคร่งครัด เราจะเดินไปเหมือนยุโรป อีกไม่กี่วันก็อาจจะทะลุหลักพัน ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นทางการแพทย์เรายังนึกไม่ออกว่าเราจะรับมือทันไหม แม้ว่าเราจะทำดีที่สุดแล้ว หรือระบบสุขภาพของเราจะแข็งแรงมากก็ตาม
เพราะฉนั้น ณ ขณะนี้เราอยู่ในจุดที่เลือกได้ เราจะเลือกช่วยกันเพื่อที่จะทำให้ตัวเลขไม่เพิ่มขึ้นไปมาก แบบญี่ปุ่น หรือไต้หวัน เพราะฉนั้นมาตรการใดที่รัฐออกมา ขอความกรุณาให้เราช่วยกัน ยกตัวอย่างเช่นไปรวมกลุ่มกันดื่มเหล้า ทางอาหาร เพราะฉนั้นถ้าชุมชนสังคมเราไม่ช่วยกัน วันนหนึ่งรัฐอาจมีความจำเป็นต้องล็อกดาวน์ หรือห้าม และให้ทุกคนไม่ต้องออกจากบ้านเลย เพราะฉนั้นถ้าคนไทยร่วมมือกัน เราจะไปแบบญี่ปุ่น ไต้หวัน ทำให้ระบบสาธารณสุขไม่เป็นภาระมาก
สำหรับท่านที่กำลังเดินทางออกจากต่างจังหวัด ความเสี่ยงจะเกิดขึ้น เกิดขึ้นตั้งแต่ท่านขึ้นรถ โดยเฉพาะระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นระบบปิด นั่งแออัดกันเป็นระยะเวลานานๆ เช่น รถทัวร์ รถโดยสาร รถตู้ ต้องระมัดระวังตัวเอง และเมื่อไปถึงพื้นที่แล้ว ทางท้องที่จะขอให้ท่านรายงานตัว และขอกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อเป็นการป้องกัน หรือหยุดการแพร่เชื้อ ซึ่งเรายังหวังว่ากราฟจำนวนผู้ป่วยของเราจะไม่เป็นเหมือนในยุโรป หรือในอเมริกาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า วันนี้กระทรวงสาธารณสุข โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีการประชุม EOC หรือปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์และสาธารณสุข โดยมีข้อสั่งการตามกฎหมาย มีการเสนอคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจประจำช่องทางการเข้าออกระหว่างประเทศโดยใช้กลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ช่องทางทางสนามบินสุวรรณภูมิ มอบผู้ตรวจราชการเขตที่ 6 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ช่องทางสนามบินดอนเมือง มอบผู้ตรวจราชการเขตที่ 4 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ช่องทางสนามบินภูเก็ต มอบผู้ตรวจฯเขต 11 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ช่องทางสนามบินเชียงใหม่ มอบผู้ตรวจฯเขตที่ 1 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ช่องทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบหมายให้ผู้ตรวจฯเขตที่ 12 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์
นอกจากนี้ยังขออัตรากำลังสนับสนุนด้านภารกิจการคัดกรอง หน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ขออัตรากำลังจากกระทรวงกลาโหมเข้ามาเพิ่ม ส่วนระบบการส่งต่อผู้ป่วยสถาบันศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินจะเข้ามาร่วมด้วย
สรุปผู้ป่วยเพิ่ม 122 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 20 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 4 ราย และกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 16 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 10 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ/ชาวต่างชาติ 4 ราย,กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 6 ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 92 ราย
สำหรับผู้ป่วยอาการหนักมี 7 ราย จาก สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลในสังกัดโรงเรียนแพทย์ และโรงพยาลบาลเอกชน ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยสรุปมีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 52 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 668 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 721 ราย
🔴 [Live] แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขประจำวันที่ 23 มีนาคม 2563#โรคไวรัสโควิด19#โควิด19#COVID19#ไวรัสโคโรนา#เกาะติดไวรัสโคโรนา#ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019#กระทรวงสาธารณสุข#mophchannel#ไทยรู้สู้โควิด
โพสต์โดย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2020