ยอดคนติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 103 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,978 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย

วันที่ 3 เมษายน 2563 เวลาประมาณ 11.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 103 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 1,978 ราย เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม 4 ราย รวมผู้เสียชีวิตรวม 19 ราย และรักษาหายแล้ว 581 ราย

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกแตะ 1 ล้านรายแล้ว จำนวน 1,014,296 สหรัฐยังมาอันดับ 1 มีผู้ป่วยกว่า 2 แสนราย

สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ เป็น ชายอายุ 59 ปี เป็นพนักงานการรถไฟ ป่วยวันแรก 16 มี.ค. รับการรักษา 20 มี.ค. กลับไปทำงานต่อ แต่วันที่ 31 มี.ค. อาการหนักขึ้นเหนื่อยหอบ เข้ารับการรักษาใน รพ.โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง พบผลแล็บยืนยัน และเสียชีวิต วันทื่ 2 มี.ค.

ชายไทยอายุ 72 ปี มีประวัติสัมผัสลูกชายซึ่งป่วยก่อนหน้าจากการไปสนามมวย มีโรคประจำตัวคือ โรคไต เริ่มป่วย 16 มี.ค. เสียชีวิตวันที่ 1 เม.ย.

ชายไทย อายุ 84 ปี ทำงานที่สนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัว ไต ความดันโลหิตสูง เก๊าท์ เข้ารับการรักษา 26 มี.ค. เสียชีวิตวันที่ 2 เม.ย.

ชายไทย อายุ 84 ปี มีประวัติไปสนามมวยราชดำเนิน เริ่มรักษาตัว วันที่ 14 มี.ค. เสียชีวิต วันที่ 2 เม.ย.

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลข ติดเชื้อใหม่ 103 ราย 48 ราย กลุ่มสนามมวย สถานบันเทิง พิธีกรรมทางศาสนา ส่วน 44 ราย เป็นกลุ่มอื่นๆ กลุ่ม ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ เช่น เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ชาวต่างประเทศที่เดินเข้าประเทศ ไปสถานที่แออัด สัมผัสกับผู้ป่วยทั้งหลาย รอการสอบสวนอีก 11 ราย

ส่วนจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ยังเป็นกรุงเทพมหานครและภูเก็ต และมี15 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ป่วยเลย ประกอบด้วย กำแพงเพชร ขัยนาท ตราด น่าน บึงการฬ พระนครศรีอยุธยา พังงา พิจิตร ระนอง ลำปาง สกลนคร สตูล สิงห์บุรี สมุทรสงคราม และอ่างทอง ส่วนจังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ประกอบด้วย ภูเก็ต นนทบุรี นนทบุรี ยะลา สมุทรปราการ ปัตตานี ชลบุรี สมุทรสาคร กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้จัดอันดับจังหวัดที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด 10 ลำดับแรกของประเทศไทย การคำนวณอัตราประชากรในพื้นที่ต่อแสน ได้แก่ 1.จ.ภูเก็ต 88 ราย 2.กรุงเทพฯ 896 ราย 3.จ.นนทบุรี 109 ราย 4.จ.ยะลา 42 ราย 5.จ.สมุทรปราการ 82 ราย 6.จ.ปัตตานี 36 ราย 7.จ.ชลบุรี 50 ราย 8.จ.สมุทรสาคร 16 ราย 9.จ.กระบี่ 12 ราย และ 10.จ.ประจวบคีรีขันธ์ 13 ราย

“ต้องเน้นย้ำในกรุงเทพฯ และ จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต เนื่องจากภายใน 1 เดือนมานี้ จากพื้นที่สีขาวก็มีการระบาดเต็มพื้นที่ มีผู้ป่วยเต็มทั้งจังหวัด โดยกระจายเป็นพื้นที่สีเขียว สีเหลือง และสีแดง จึงทำให้เกิดอัตราการเจ็บป่วยมากที่สุดในประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากร” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของไทยเมื่อเปรียบเทียบกับอาเซียนไปกลางๆ ค่อนข้างไปข้างบน อยู่ในอันดับที่ 3 จาก 10 ประเทศอาเซียน ต้องผลักดันให้รายใหม่ลดลงให้ได้ ตัวเลข 100 กว่าๆ ยังไม่ทำให้กราฟผู้ติดเชื้อลดลง แต่เมื่อเทียบกับทั้งโลกเราอยู่กลางๆ ค่อนข้างล่าง หลักร้อย 10 วันเป็นพัน

“นายกฯ บอกว่าไม่พอใจ ตัวเลขจึงต้องให้ต่ำกว่านี้ให้ได้ ส่วนอัตราการเสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อ 0.96 ถือเป็นเรื่องน่าพอใจ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว