กาละแมร์ แจง เป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ไม่รู้กฎหมาย

กาละแมร์ แจง

“กาละแมร์” เข้าชี้แจง คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข เป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน ยันไม่รู้กฎหมาย

วันที่ 28 มกราคม 2564 มติชนรายงานว่า นางสาวพัชรศรี เบญจมาศ หรือ “กาละแมร์” พิธีกรชื่อดัง พร้อมด้วยนายนิติธร แก้วโต ทนายความ ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กรณีรีวิวอาหารเสริมเกินจริง ว่า ถือเป็นโอกาสอันดี เพราะได้แสดงความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันในแง่ของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมว่าควรจะทำอะไรอย่างไร

“กาละแมร์” ระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับประกาศของทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ปี 2561 จึงไปหาข้อมูลดูว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้บ้าง ปรากฎว่ามีเยอะมาก ในวันนี้จึงมาหาทางออกให้ผู้ประกอบการทุกคนและระดมความคิดเห็นกับหน่วยงาน กมธ. ก็ได้รู้ว่าต้องทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะรายละเอียดกฎหมายค่อนข้างเยอะ ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าไม่สามารถพูดความรู้สึกได้ จากประสบการณ์ตรงหรือประสบการณ์ตรงของลูกค้า เมื่อได้มาศึกษากฎหมายของ อย. ก็รู้ว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ตนยังไม่รู้

นางสาวพัชรศรี กล่าวต่อว่า ตนเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน ทำผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่ไม่ทราบในแง่ของกฎหมาย วันนี้ก็ได้รับความรู้มากขึ้นและได้เสนอแนะการทำโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขั้นต่อไปอย.จะมีการจัดอบรมผู้ประกอบการ การทำอาหารเสริมต่าง ๆ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ และตนยินดีช่วยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มคริงผู้บริโภค (สคบ.) ทุกอย่าง เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว

อีกทั้งยังระบุว่า ไม่อยากให้ใครมาโดนและไม่อยากทำผิดซ้ำอีก และประชาชนจะได้รับรู้ข้อกล่าวหาเหล่านี้ ตนยินดีถ้าจะให้เป็นพรีเซ็นเตอร์หรือช่วยทำสื่อ โดยตั้งแต่มีเรื่องราวและหมายเรียกมา ทนายเป็นผู้จัดการติดต่อกับทางตำรวจอยู่ตลอดเวลา ได้บอกทางตำรวจไปแล้วว่าวันนี้ตนติดภาระกิจกับกมธ.ในวันนี้ จึงขอเลื่อนการพบตำรวจก่อน ไม่มีการเพิกเฉยใด ๆ

เมื่อถามว่าทำไมถึงเลือกมาชี้แจงกับกมธ. น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า อยากจะชี้แจงในส่วนของตนด้วย และติดต่อกับทางตำรวจตลอดเวลาอยู่แล้ว ในส่วนของกฎหมาย ตนก็ต้องเคารพกฎหมายอยู่แล้ว ตำรวจมีหมายเรียกมา ตนก็มีทนายติดต่อประสานงานแล้ว

เมื่อถามว่าจะไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อนมีหมายเรียกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์หรือไม่ นายนิติธร กล่าวว่า จะไปก่อนที่จะมีหมายเรียกครั้งที่ 2 แน่นอน ประสานไว้หมดแล้ว และขอเลื่อนไประยะเวลาหนึ่งเพื่อจัดคิวก่อน

เมื่อถามว่าหากพูดในทางความรู้สึก การโฆษณาที่ได้พูดออกไปเป็นการพูดเกินจริงเกินไปหรือไม่ น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ตามที่ได้บอกไปว่า ตนได้พูดในส่วนของตน ไม่ใช่เพียงความรู้สึกส่วนตัวแต่ว่ามีคนมาบอกด้วย หรือในกรณีของลูกค้า เวลาไลฟ์หรือมีคนส่งรีวิวมา เขาก็มีตัวตนจริง ด้วยความที่ตนเป็นผู้ประกอบการ ทำผลิตภัณฑ์เอง ขายเอง รีวิวเอง ได้รับผลตอบรับแบบนี้ก็ดีใจและรู้สึกว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นโยชน์ต่อคนจริง

ตนอาจจะขาดความรอบคอบและไม่ทราบว่าในแง่ข้อเท็จจริงที่เขาได้พูดบนพื้นฐานความจริงที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถพูดในแง่ของกฎหมายได้

เมื่อถามว่าระหว่างหมายเรียกของตำรวจกับหมายเรียกของกรรมาธิการ หมายใดถูกส่งมาก่อนและทำไมถึงเลือกที่จะมาที่รัฐสภา นายนิติธร กล่าวว่า หมายเรียกของตำรวจมาก่อน แต่ที่มาหมายของกมธ. เพราะมองว่าเวลาคุยกับตำรวจ จะทราบข้อกล่าวหาแต่ไม่รู้รายละเอียด แต่ในวันนี้อาจจะรู้รายละเอียดเพราะมาทั้ง สคบ.และ อย. จะได้รายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่และกำหนดแนวทางในการดำเนินคดี

เมื่อถามว่าทำไมไม่เลือกที่จะหยิบยกสรรพคุณของผลิตภัณฑ์มาใช้ในการโฆษณาแทนที่จะนำรีวิวจากบุคคลต่างๆมา น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า จากที่ได้ฟัง อย. ก็ทราบว่าสรรพคุณบางอย่างก็พูดไม่ได้ มันมีรายละเอียดเยอะมาก ทุกวันนี้ยังตามอ่านกฎหมาย ต้องตีความวิเคราะห์ว่าอย่างนี้ทำได้หรือไม่ พอเกิดเรื่องขึ้น เราก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและต้องระมัดระวัง

นายนิติธร ยืนยันว่า น.ส.พัชรศรี ไม่มีการเจตนาหลอกลวง แต่เรื่องการขาดความรอบคอบในการศึกษาข้อกฎหมาย ก็ยอมรับตรงนี้ ในส่วนของข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เราก็ต้องขอหลักฐาน อย่างเช่น กรณีรีวิวว่าสามารถช่วยรักษาโควิดได้ ก็ต้องติดต่อให้เขามาเป็นพยานให้ เพื่อยืนยันขอเท็จจริงที่พูดนั้นเป็นความจริง

“เราก็เป็นแม่ค้าออนไลน์คนหนึ่ง และในช่วงโควิดที่ผ่านมา คนก็ต้องการซื้อขายต่าง ๆ นานา และเรามีเจตนาที่ดีในการทำผลิตภัณฑ์ เลือกวัตถุดิบที่ดี เรากินเอง แม่เรากินเอง เราไม่เอาของไม่ดีเด็ดขาด และที่สำคัญ ต้องขอบคุณลูกค้าทุกคนทั้งคำติ-ชม คอมเมนต์ต่าง ๆ เพราะเราเป็นมือใหม่ เพียงแต่ว่าผลประกอบการเราได้การตอบรับที่ดี กินแล้วเห็นผลก็เลยโดดเด่นหรือเปล่า เลยเติบโตอย่างรวดเร็ว”


“จากเหตุการณ์นี้ทำให้ได้ปรับปรุงองค์กร ปรับปรุงทุกอย่างให้ดีขึ้นรวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เรามีเจตนาที่ดีที่จะทำสิ่งที่ทำให้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ก็จะทำต่อไป เพียงแต่ต้องมีปรับปรุงพัฒนา” นางสาวพัชรศรี กล่าว