กทม. ปรับโฉม “สวนลุมพินี” ครั้งใหญ่ฉลอง 100 ปี สู่สวนสาธารณะระดับโลก

กทม. เตรียมปรับโฉมสวนลุมพินีครั้งใหญ่ ฉลองครบรอบ 100 ปี ในปี 2568 สู่สวนสาธารณะระดับโลก รับนักท่องเที่ยวหลังโควิด

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2564 นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า กทม.เตรียมแผนปรับปรุงและพัฒนาสวนลุมพินี ในโอกาสครบรอบ 100 ในปี 2568 ที่จะถึงนี้

ซึ่ง “สวนลุมพินี” เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ จัดสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับประชาชน เริ่มเปิดบริการในปี 2548

นับเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีขนาดพื้นที่ 360 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ CBD ของกรุงเทพฯ ล้อมรอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม

ภายในสวนลุมพินี มีลักษณะการใช้งานแบบเอนกประสงค์ เป็นที่ตั้งของศูนย์นันทนาการ สมาคม ชมรมต่าง ๆ ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เปรียบเสมือน “ปอด” สำคัญของคนเมือง มีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุเก่าแก่ให้ความร่มรื่นรายล้อมอยู่ทั่วบริเวณ มีสระน้ำกว้างใหญ่ ดอกไม้นานาพันธุ์ สวนป่า และสถานที่สำคัญต่าง ๆ

“ในแต่ละวันมีประชาชนเข้ามาใช้บริการภายในสวนสาธารณะเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยในวันจันทร์-ศุกร์ ประมาณ 10,000 คนต่อวัน และในวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 15,000 คนต่อวัน “

นายชาตรีกล่าวอีกว่า จากการสำรวจสภาพปัจจุบันของสวนลุมพินี พบว่าอาคารสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ ภายใน รวมถึงระบบสาธารณูปโภค มีสภาพชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา การจัดพื้นที่ใช้สอยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังไม่สามารถตอบสนองกับการใช้งานตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป

“กทม.จึงเตรียมที่ปรับปรุงและพัฒนาสวนลุมพินีครั้งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองสวนลุมพินีครบรอบ 100 ปี ในปี 2568 ให้เป็นสวนสาธารณะระดับโลกที่สร้างสรรค์และทันสมัย รองรับการใช้ประโยชน์ในทุกมิติ พร้อมกับสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ดึงดูดให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้มาเช็คอินและถ่ายรูปสวย ๆ “

สำหรับการปรับปรุงสวนลุมพินีในครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ได้แก่ การพัฒนาพื้นที่สีเขียวกลางใจเมืองให้เกิดการใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ โดยแสดงอัตลักษณ์ด้านสวนสาธารณะของกรุงเทพฯให้เป็นมากกว่าสวน แต่เป็นภาพลักษณ์ของประเทศ ที่สามารถรองรับการจัดกิจกรรมระดับเมือง และระดับชาติได้ พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ

ซึ่งการปรับปรุงได้ดำเนินการตามแนวคิดในการออกแบบเพื่อพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะในทุกมิติ ครอบคลุมอัตลักษณ์ของเมือง 5 ด้าน คือ 1. คุณค่าแห่งประวัติศาสตร์ (History) 2. คุณภาพทางวัฒนธรรม ศิลปะ การแสดง และแหล่งเรียนรู้รูปแบบต่างๆ (Cultural Integration)

3. การพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับเมือง เพื่อตอบรับสภาวะโลกร้อน (Climate Action Park) 4. สร้างพื้นที่กิจกรรมที่ทันสมัยและหลากหลายเข้ากับยุคสมัย (Modern Recreation) และ 5. ตอบโจทย์การใช้งานตามรูปแบบมาตรฐานของการออกแบบ หรือ Universal Design ในการให้บริการในทุกส่วนของสวนลุมพินี (Inclusive For All)

โดยจะแบ่งการปรับปรุงออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 เป็นการปรับปรุงโครงการพื้นฐาน และสาธารณูปโภคในสวนให้แล้วเสร็จในเฟสแรก เช่น งานระบบท่อและงานระบายน้ำใต้ดิน ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และท่อระบายน้ำบางส่วนไม่เชื่อมกับทางระบายน้ำ รวมถึงปัญหาน้ำเน่าเสียในบึงอีกด้วย นอกจากนี้ ยังดำเนินการปรับปรุงงานระบบไฟฟ้าส่องสว่าง งานปรับทางเดิน-วิ่ง และงานปรับปรุงอาคารที่ทรุดโทรม

เฟสที่ 2 จะเน้นการพัฒนาพื้นที่เพื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย และ เฟส 3 เป็นการพัฒนาพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โดยการออกแบบและพัฒนาพื้นที่ ได้รับความร่วมมือจากอาจารย์กชกร วรอาคม ภูมิสถาปนิกชาวไทย ซึ่งมีผลงานออกแบบระดับโลกเป็นผู้ให้แนวคิดและออกแบบ และได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มาใช้บริการและภาคเอกชนบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการปรับปรุงและพัฒนาสวนลุมพินีครั้งนี้ ให้เป็นสวนสาธารณะระดับโลก ที่สร้างสรรค์และทันสมัย