มหาดไทย อัพเดท 52 จังหวัด สั่งใส่แมสก์100% ฝ่าฝืนปรับ 20,000 บาท

กทม. เดินทางรถไฟฟ้า
แฟ้มภาพ

ศูนย์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย อัพเดทข้อมูล 52 จังหวัด สั่งคุมเข้มบังคับให้ประชาชนใส่หน้าหากก่อนออกจากเคหสถาน ไปในที่ชุมชน 100% ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 2 หมื่นบาท

วันที่ 27 เมษยน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ได้อัพเดทข้อมูล 52 จังหวัด ที่กำหนดให้ ประชาชนต้องใส่หน้ากาก 100% ก่อนออกจากเคหสถาน หรือไปในที่สาธารณะ ที่ชุมชน หรือแม้กระทั่งนั่งในรถยนต์ส่วนตัวที่มีผู้โดยสารเกิน 2 คนขึ้นไป ก็ต้องสวมหน้ากากป้องกันโรค ผู้ฝ่าฝืนฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีระวางโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท

สำหรับ บทลงโทษผู้ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับข้อ 7 (1) และข้อ 11 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 เป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

วานนี้(26 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถูกกรุงเทพมหานคร(กทม.)สั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท หลังมีการเผยแพร่ภาพออกมา เปิดหน้ากากอนามัยระหว่างการประชุมที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดหาและการกระจายวัคซีน เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ทำเนียบรัฐบาล และเป็นภาพที่ไม่ได้สวมหน้ากากระหว่างการประชุม

ประยุทธ์ ถูก กทม. ปรับ 6,000 บาท ไม่สวมหน้ากากระหว่างประชุม

ส่วนพื้นที่ 52 จังหวัดที่ให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากเคหสถาน หรือไปในที่สาธารณะ มีดังนี้

ภาคกลางและภาคตะวันออก

1.กาญจนบุรี (เฉพาะตลาด ตลาดนัด ตลาดน้ำ)
2.ปราจีนบุรี
3.เพชรบุรี
4.สุพรรณบุรี
5.อยุธยา
6.สมุทรสาคร
7.ลพบุรี
8.สมุทรปราการ
9.ประจวบคีรีขันธ์
10.ชลบุรี
11.สระบุรี
12.ตราด
13.นนทบุรี
14.นครปฐม
15.จันทบุรี
16.กรุงเทพมหานคร
17.ปทุมธานี
18.ฉะเชิงเทรา
19.อ่างทอง
20.สระแก้ว

ภาคใต้

1.สุราษฎร์ธานี
2.ตรัง
3.นครศรีธรรมราช
4.นราธิวาส
5.ปัตตานี
6.พังงา
7.ภูเก็ต
8.ระนอง
9.สตูล
10.สงขลา
11.ยะลา

ภาคเหนือ

1.สุโขทัย
2.ตาก
3.เพชรบูรณ์
4.อุตรดิตถ์
5.ลำพูน
6.พิษณุโลก
7.เชียงใหม่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

1.ยโสธร
2.หนองคาย
3.อุบลราชธานี
4.ชัยภูมิ
5.มหาสารคาม
6.มุกดาหาร
7.ศรีสะเกษ
8.สุรินทร์
9.อุดรธานี
10.เลย
11.อำนาจเจริญ
12.บุรีรัมย์
13.นครพนม
14.ขอนแก่น

(ข้อมูลล่าสุดที่ ศบค.มท.รายงานเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา)