อย.เผยความคืบหน้าซิลลิคฟาร์มมา ยื่นขึ้นทะเทียบวัคซีนโควิดโมเดอร์นา คาดแล้วเสร็จ พ.ค.นี้ ด้านอนุทินย้ำไม่เคยปิดกั้นการขึ้นทะเบียนวัคซีนใด-ประชาชนไม่สามารถเลือกวัคซีนเองได้
วันที่ 30 เมษายน 2564 นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. เปิดความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิดโดยระบุว่า ขณะนี้บริษัทซิลิคฟาร์มา จำกัด ได้มีการยื่นเอกสารประกอบการขึ้นทะเบียนของวัคซีนโมเดอร์นาในประเทศไทย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังการเข้าพบกับตัวแทนบริษัทผู้ผลิตวัคซีนซิโนฟาร์ม ประเทศจีน ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นหารือเจรจา แต่หากบริษัทซิโนฟาร์ม ต้องการมาขึ้นทะเบียนในประเทศไทย เพื่อมาจำหน่ายให้กับทั้งภาครัฐหรือเอกชนก็ไม่ปิดกั้น แต่ต้องส่งเอกสารตามระเบียบการขึ้นทะเบียนวัคซีนของทาง อย. กำหนด
พร้อมเน้นย้ำถึงกรณีที่มีการพูดถึงว่า รัฐบาลปิดกั้นการขึ้นทะเบียนวัคซีน ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยวัคซีนที่เข้ามาในประเทศไทยต้องเสรี ด้วยคุณสมบัติ มาตรฐานที่ดี มีความปลอดภัย ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้นำมาใช้ในประเทศไทยได้ ทั้งนี้ รัฐบาลเปิดกว้างให้แก่วัคซีนทุกยี่ห้อ
ส่วนกรณีการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดหลายยี่ห้อเพื่อเข้ามาฉีดในประเทศไทย ทำให้ประชาชนบางส่วนเลือกรอฉีดวัคซีนบางยี่ห้อ ตนยืนยันว่าประชาชนเลือกฉีดไม่ได้ เนื่องจาก วัคซีนแต่ละชนิดมีความเหมาะสมที่จะบริหารจัดการฉีดในกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน
โดยวัคซีนไฟเซอร์ มีผลการทดลองในเด็กตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป หากนำเข้ามาได้เราก็จะสำรองฉีดให้เด็ก 12-18 ปี
ส่วนวัคซีนซิโนแวค ที่ฉีดเข็ม 2 ห่างจากเข็มแรกเพียง 3 สัปดาห์ ใช้เวลาสร้างภูมิคุ้มกันน้อยกว่าวัคซีนชนิดอื่น จะใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้คนทำงานในเวลารวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ต้องใช้วัคซีนแต่ละชนิดสำรองให้กับข้อบ่งชี้ของแต่ละคนตามความจำเป็นต้องใช้ด้วย เช่น การแพ้วัคซีน
ทั้งนี้ ตนอยากสื่อสารถึงประชาชนว่าไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพราะทุกคนล้วนจะได้รับวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดความปลอดภัยเทียบเท่ากันหมด และยืนยันว่าวัคซีนที่เข้ามาในประเทศไทยทุกยี่ห้อ มีคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
