สสจ.เชียงใหม่ชี้แจงชายวัย 51 ปี เผยเอกสารฉีดวัคซีน 2 เข็ม ต่างยี่ห้อ ห่างกันไม่ถึง 1 เดือน คาดเกิดจากการบันทึกข้อมูลผิดพลาด
วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ที่บัญชีเฟซบุ๊กของชาย วัย 51 ปี อาศัย จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์ภาพเอกสารการรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลังฉีดครบ 2 เข็ม โดยเข็มที่ 1 เป็นของซิโนแวค และเข็มที่ 2 เป็นของแอสตร้าเซนเนก้า โดยเพิ่งทราบว่าตนเองได้ฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน หลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ 4 วัน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โพสต์ดังกล่าวยังระบุข้อความแสดงถึงความเป็นกังวลว่า จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์กับตนเองหรือไม่ จากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ต่างชนิดกัน พร้อมตั้งคำถามว่า ตนเองรอดชีวิตหรือยัง และมีใครได้รับวัคซีนต่างชนิดเหมือนกับตนบ้าง
สำหรับชายดังกล่าว ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ยี่ห้อซิโนแวค เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 และรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งหากนับระยะจากเข็มที่ 1 ถึงเข็มที่ 2 รวมทั้งสิ้น 22 วัน หรือประมาณ 3 สัปดาห์เท่านั้น
ล่าสุด รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้น คาดว่าน่าจะเกิดจากการผิดพลาดในการพิมพ์เอกสารผิด เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนั้น ยังไม่มีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ให้ประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่างชนิด หรือต่างยี่ห้อกันจะสามารถทำได้หรือไม่ พบว่า ในขณะนี้ยังแนะนำให้ฉีดชนิดเดิมไปก่อน จนกว่าจะมีการศึกษาวิจัยออกมาเพิ่มเติม ยกเว้นกรณีที่ไม่สามารถหาวัคซีนชนิดเดิมฉีดได้ หรือมีอาการอันไม่พึงประสงค์หลังจากวัคซีนชนิดเดิม
ส่วนระยะห่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 หากเป็นยี่ห้อซิโนแวค ให้เว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ แต่หากเป็นยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า ให้เว้นระยะห่าง 10-12 สัปดาห์ หรือสามารถพิจารณาให้เลื่อนได้นานสุด 16 สัปดาห์ หากมีความจำเป็น