สธ.ชี้ถ้าไม่ยกระดับมาตรการ คาดมี “ผู้ป่วย-เสียชีวิต” มากไปอีก 3-4 เดือน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

หมอโอภาส ย้ำโควิดรอบนี้ติดเชื้อในครอบครัวสูง แนะสวมหน้ากากอนามัยแม้อยู่บ้าน จำกัดเดินทาง งดออกจากบ้าน ชี้ หากยังไม่ยกระดับมาตรการเพิ่มเติม คาดทำให้มีผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตอย่างมากไปอีก 3-4 เดือน

วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์ และมาตรการป้องกันโควิด-19 โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การระบาดของสายพันธุ์เดลต้าขณะนี้พบมากกว่า 111 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

ส่วนประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตขยายวงกว้างในระดับสูงมาก จนกระทบขีดความสามารถทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก โดยวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 10,082 ราย และมีผู้เสียชีวิต 141 ราย ส่วนใหญ่มากกว่า 70% เป็นผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญของการติดเชื้อ และการระบาดระลอกนี้ แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะพบการระบาดแพร่เชื้อในครอบครัว หรือคนรู้จัก ใกล้ชิดสูง ถึงวันนี้ยังพบว่ามีมีการลักลอบเล่นการพนัน รวมกลุ่มเพื่อนจัดปาร์ตี้ที่บ้าน และนอกบ้าน อาจเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้การระบาดของโรคไม่ลดลง

ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทุกครอบครัวจำเป็นต้องปกป้องคนที่รักด้วยการงดออกจากบ้าน ทำงานที่บ้านให้มากที่สุด ลดความเสี่ยงจากการไปติดเชื้อนอกบ้าน และไม่นำเชื้อมาแพร่ให้กับผู้อื่นต่อ

ทั้งนี้เวลาอยู่บ้าน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อพูดคุยกับสมาชิกในบ้าน รับประทานอาหารแยกกัน ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่จับร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ตู้เย็น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะอาหาร เป็นต้น

ที่สำคัญเราทุกคนต้องช่วยกันปกป้องผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้องรังในบ้าน จำเป็นต้องพาผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรังไปรับการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้กรุงเทพฯ และปริมณฑลได้เตรียมพื้นที่หลายจุด และได้รับวัคซีนเพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงจำนวนมากในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคกลางยังพบการระบาดในโรงงานและสถานประกอบการต่าง ๆ ฉะนั้นผู้ประกอบการต้องร่วมมือกับลูกจ้าง คนงาน เพื่อลดความรุนแรงของสถานการณ์ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ลดการแพร่เชื้อกระจายไปยังชุมชนรอบ ๆ ทำให้ต้องมีมาตรการที่เคร่งครัดที่เรียกว่า บับเบิ้ลแอนด์ซีล คือการอยู่ในสถานประกอบการกับที่พักเท่านั้น ส่วนการเดินทางจะต้องไม่แวะจุดต่าง ๆ

ส่วนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ติดเชื้อเดินทางจากกรุงเทพฯ ปริมณฑลจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลต้องรับผู้ป่วยมากขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงขอความร่วมมือทุกท่านงดเดินทางข้ามจังหวัด และเพิ่มการดูแลรักษาตนเอง โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการหรืออาการน้อย ให้เข้าระบบการจัดการรักษาดูแลที่บ้าน หรือการกักตัวรักษาในชุมชน

ซึ่งขณะนี้ได้มีการร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ หลายหน่วยงานได้เริ่มดำเนิการอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้คาดการณ์ว่า หากยังไม่ทำมาตรการอะไรที่เพิ่มเติมกว่านี้ จะทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมากไปอีกอย่างน้อย 3-4 เดือน ทำให้ต้องมีการยกระดับมาตรการเพื่อป้องกัน ควบคุมโรคโดยเฉพาะการจำกัดการเดินทาง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของโรค

นอกจากนี้ทุกท่านต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล และเร่งรัดความครอบคลุมในการฉีดวัคซีน เพื่อลดป่วยหนักและการเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

“ขอแจ้งว่าความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่าน เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังมีระดับสูงมากกลับมาดีขึ้นได้ในเร็ววัน ทางสธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในลำดับต่อไป”