รพ.สนามธรรมศาสตร์ หวังโควิดเวฟ 5 ผู้เสียชีวิตไม่มากเท่าเวฟ 4

รพ.สนามธรรมศาสตร์ หวั่นโควิดเวฟ 5 มาแน่ แค่ช้าหรือเร็ว ชี้วัคซีนคือทางออก
ภาพจากเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์

โรงพยาบาลสนามธรรมศาตร์ ห่วงคลายล็อกดาวน์ เร็วหรือช้าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะขึ้น หวังให้ระลอก 5 มาถึงช้าที่สุด ชี้ วัคซีนคือทางออก ลดจำนวนผู้เสียชีวิต 

วันที่ 1 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 ส.ค.) เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั่วประเทศลดมาเหลือที่ 14,666 คนแล้ว ซึ่งคาดว่าจนอีกประมาณกลางเดือนจะได้เห็นผู้ป่วยใหม่ที่จำนวนน้อยกว่าหมื่นรายเรื่อย ๆ อีกทั้งสัปดาห์นี้ ผู้เสียชีวิตจากโควิดลดเหลือต่ำเพียง 190 ราย ซึ่งจากตอนแรกคาดว่าต้องพ้นเดือน ส.ค.ไปก่อนถึงจะลดเหลือต่ำกว่าสองร้อย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ 2 ราย

ต่อกรณีการคลายล็อกดาวน์ประเทศวันนี้ (1 ก.ย.) ระบุว่า จะมีกิจกรรมในทางเศรษฐกิจและกิจกรรมทางสังคมมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็หมายความว่า การพบปะ ใกล้ชิดของผู้คนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการระบาดของโควิด จะมีมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย

ในขณะที่เรายังฉีดวัคซีนกันได้ไม่มากพอ ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เร็วหรือช้าเท่านั้น ก็จะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อมากขึ้น อันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดรอบใหม่ที่ทุก ๆ ประเทศเผชิญมาแล้ว เราขอเวลาอย่างน้อยสักเดือนนึงนะ เพื่อให้วอร์ดผู้ป่วยวิกฤตโควิด RCU บ้านปูของเราซึ่งเริ่มรื้อถอนซ่อมแซมแล้ว ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ก่อนนะ

เราได้แต่หวังว่าเวฟ 5 ของโควิด จะมาถึงช้ามาก ๆ และถ้าจะมา ก็ขอให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่มากเท่าเวฟ 4 ที่เคยเป็นเลย และปัจจัยเดียวที่จะช่วยทำให้ความหวังนี้เป็นจริงก็คือ จะต้องเร่งการฉีดวัคซีนออกไปให้กว้างขวางและเพิ่มจำนวนผู้ได้รับวัคซีนให้ได้มากที่สุด ก่อนที่เวฟที่ 5 จะมาเยี่ยมเยือนพวกเราอีกเท่านั้น

เราย้ำว่าเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยชาติในการทำเรื่องวัคซีนอยู่ ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิตที่ยิม4 และเชื่อว่าในขณะนี้ เราจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าฉีดให้ผู้คนจำนวนมากได้ไปจนถึงกลางเดือนกันยายน และเราก็มีความหวังว่า ช่วงหลังของเดือน รัฐบาลคงจะได้รับแอสตร้าเซนเนก้ามาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ ตามข่าวที่แจ้งว่า การส่งมอบวัคซีนจะดีขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนไปแล้วและสามารถแบ่งส่งมาให้ผู้คนอีกสองแสนคนที่รอคิวอยู่ที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ให้ได้ฉีดโดยไม่หยุดชะงักด้วยนะ

วันนี้มีผู้จองคิวรับวัคซีนแอสตร้าทั้งเข็มแรกและเข็มที่สองจำนวน 2,694 ราย และมีผู้มาฉีดจริง 2,290 ราย คิดเป็น 84.69% นับว่าเป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ และมีส่วนในการเพิ่มจำนวนผู้ได้รับวัคซีนให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี

มีหลายคนที่รอคิวฉีดวัคซีนเข็มแรกในเดือนกันยายนและตุลาคมอยู่บ่นมากับพวกเราว่า ทำไมจะวางแผนให้วัคซีนเข็มที่สามเป็นบูสเตอร์กันแล้วล่ะ ในเมื่อพวกเขาซึ่งอยู่ กทม.และปทุมธานี พื้นที่สีแดงเข้มแท้ ๆ รอคิวฉีดเข็มแรกอยู่ ยังไม่ถึงเสียที ก็เลยยังไม่ได้แม้แต่เข็มเดียว ทำไมไม่รีบหาเข็มแรกมาให้คนที่รออยู่ก่อนล่ะ  เราเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้เหมือนกันนะ คงต้องผ่านคำถามนี้ไปที่ คร. หรือ สธ.ก็แล้วกันนะ

สำหรับที่ รพ.สนาม วันนี้ เราส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านได้เพิ่มอีก 26 คน และรับผู้ป่วยใหม่มาเพิ่มในโรงพยาบาลได้เพียง 18 คน ทำให้จำนวนผู้ป่วยในรพ.สนามลดลงเหลือ 273 คนในคืนนี้
เราตัดสินใจกันแล้วนะ ว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้น และผู้คนเริ่มมีเรื่องอื่นจากการคลายล็อกของ ศบค. ที่น่าสนใจกว่าโควิด  เราก็ไม่ควรต้องมารายงานสถานการณ์โควิดทุกๆวันจนเสียบรรยากาศ

ดังนั้น ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 2 เป็นต้นไป เราจะมาสรุปรายงานเรื่องโควิดที่ธรรมศาสตร์ให้ทราบเพียงสัปดาห์ละสองหน คือทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เอาตามแบบการแถลงข่าวอาทิตย์ละสองวันของ ศบค.เลยแหละ
ขอยืนยันว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้าก็ตาม พวกเราที่นี่จะเตรียมความพร้อมและจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ ด้วยความตระหนักในหน้าที่ และมีความเชื่อมั่นว่า…อนาคตจะต้องมีประเทศไทย