สธ.ยัน โควิดสายพันธุ์ “มิว” ยังไม่พบในไทย หลังญี่ปุ่นพบครั้งแรก

โควิด

สธ. ยัน ยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ “มิว” ในไทย ชี้อย่าเพิ่งกังวล ย้ำปฏิบัติตามมาตรการช่วยป้องกันโรคดีที่สุด เตรียมแถลงความคืบหน้าสัปดาห์หน้า

วันที่ 2 กันยายน 2564 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบโควิด-19 สายพันธุ์ C1.2 และสายพันธุ์มิว ในประเทศไทย เข้าใจว่าการเผยแพร่ข่าวการพบสายพันธุ์ต่าง ๆ มาจากการอ่านข่าวข้อมูลจากต่างประเทศ แต่อย่าเพิ่งรีบตกใจ หรือกังวล

ขอให้ทุกคนยังคงป้องกันตนเองตามมาตรการต่าง ๆ ทั้งสวมหน้ากากอนามัย การหมั่นล้างมือ และมีระยะห่าง ที่ยังเป็นกลไกในการป้องกันควบคุมโรคที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตรียมแถลงความคืบหน้าเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มสายพันธุ์ AY หรือ C.1.2. หรือ สายพันธุ์มิว เพื่ออัพเดตข้อมูลล่าสุดต่อไป

ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์มิว ครั้งแรก

ขณะที่ สำนักข่าวเอ็นเอชเคของประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ “มิว” เชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังจับตามองเป็นครั้งแรก

ผู้ติดเชื้อเป็นนักท่องเที่ยวจำนวน 2 ราย กักตัวอยู่ที่ศูนย์กักตัวของสนามบิน 2 แห่ง รายหนึ่งเป็นหญิงวัย 40 ปี ที่สนามบินนาริตะ เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ส่วนอีกรายเป็นหญิงวัย 50 ที่สนามบินฮาเนดะ เดินทางจากสหราชอาณาจักร ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม

WHO จับตา สายพันธุ์มิว หวั่นลดประสิทธิภาพวัคซีน

ก่อนหน้านี้ (1 ก.ย.) องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า กำลังติดตามโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.621 หรือที่เรียกว่า “มิว” (Mu) ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศโคลอมเบีย โดยได้จัดโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวเป็น “สายพันธุ์ที่สนใจ” (variant of interest)


WHO ระบุด้วยว่า ข้อมูลการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์มิว บ่งชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ว่า เชื้อไวรัสอาจจะสามารถลดประสิทธิภาพของวัคซีนลงได้ ซึ่งทำให้ต้องมีการศึกษาโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น