ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลรั่ว 4 แสนลิตร มาบตาพุด จ.ระยอง

ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเล รั่ว 4 แสนลิตร สตาร์ ปิโตรเลียมฯ คุมเหตุได้แล้ว

ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลในนิคมมาบตาพุด รั่วไหล 4 แสนลิตร สตาร์ ปิโตรเลียมฯ คุมเหตุได้แล้ว

วันที่ 26 มกราคม 2565 มติชน รายงานว่า เกิดเหตุท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง หลังเกิดเหตุบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ ตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน

พร้อมทั้งหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชุมชน ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกลุ่มบริษัท ข้างเคียง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.ภาค 1)

ทางด้านกรมควบคุมมลพิษได้รับการประสานจากบริษัทว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 26 มกราคม มีน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวน 400,000 ลิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล บริเวณมาบตาพุด จุดเกิดเหตุ คือ บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล (SPM) ละจิจูด 12 องศา 29.3 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 101 องศา 11.76 ลิปดาตะวันออก

ทางกรมควบคุมมลพิษ จึงได้ใช้แบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นว่า กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึง จนถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 มกราคม เวลาประมาณ 17.00 น. ในปริมาณ 180,000 ลิตร

ข่าวแจ้งว่าวันนี้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษและคณะจะเดินทางมาประชุมแก้ไขสถานการณ์ที่ห้องประชุมสำนักงานท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เวลา 13.00 น. และลงเรือไปดูจุดเกิดเหตุ

ล่าสุด มติชน รายงานว่า บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 26 มกราคม เวลา 04.02 น. ระบุว่า บริษัทขอแจ้งเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เกิดเหตุ ทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินได้ทำการควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน และได้ทำการหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย

ขณะนี้สถานการณ์สามารถควบคุมได้และหยุดการรั่วไหลตั้งแต่เวลา 00.18 น.ของวันนี้ และได้ดำเนินการใช้เรือฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน บริษัทจะทำการสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุในเช้าวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป

บริษัทได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว (EIC), ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียง, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ศรชล.ภาค 1 และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ซึ่งประกอบด้วยกำลังพล เรือ และน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน เพื่อใช้ในการขจัดคราบน้ำมัน

สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติโดยไม่มีผลกระทบจากอุบัติการณ์ดังกล่าว

หากมีความคืบหน้า บริษัทจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะ
ปกติ