ศบค. เผย กทม.นำโด่งยอดติดเชื้อโควิดใหม่ เจอ 3 คลัสเตอร์ใหญ่

ตรวจ ATK - ผลpositive
เครดิตภาพ : สำนักอนามัย กทม.

ศบค.เผย กทม.ยอดป่วยใหม่ยังไม่ลด  วันนี้ (8 ก.พ.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1,897 ราย รวมยอดสะสมตั้งแต่ต้นปี’65 ใกล้แตะ 40,000 รายแล้ว หลังเจอ 3 คลัสเตอร์ใหญ่ ทั้งตลาด สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ และสถานพยาบาล มีสมุทรปราการและชลบุรีตามติด

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ประจำวันว่าข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 มีผู้ป่วยรายใหม่ 10,398 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 294,434 ราย หายป่วยแล้ว 232,812 ราย และ เสียชีวิตสะสม 622 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,517,869 ราย หายป่วยแล้ว 2,401,306 ราย เสียชีวิตสะสม 22,320 ราย

Advertisment

สำหรับผู้มารับวัคซีน วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 21,782 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 31,719 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 331,689 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 7 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 117,479,975 โดส

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 52,528,595 ราย คิดเป็น 75.5% ของประชากร
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 48,969,726 ราย คิดเป็น 70.4% ของประชากร
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 15,981,654 ราย คิดเป็น 23% ของประชากร

 

กทม.ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปีจ่อ 4 หมื่นราย

ส่วน 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันนี้ อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,897 ราย เพิ่มจากวานนี้(1,391) ถึง 506 ราย รวมสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-8 ก.พ.65 มีผู้ป่วยสะสมล่าสุด 39,427 ราย

Advertisment

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วานนี้(7 ก.พ.) แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ รองโฆษกศบค. ระบุว่าที่ประชุมของศบค.ชุดเล็กมีความเป็นห่วง หลังพบการติดเชื้อในกรุงเทพมหานครยังมีอยู่เป็นระยะและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้พื้นที่ของกรุงเทพมหานครพบคลัสเตอร์ใหญ่หลายคลัสเตอร์ได้แก่ คลัสเตอร์สถานดูแลผู้สูงอายุ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 25 ราย คลัสเตอร์สถานพยาบาลพบผู้ติดเชื้อ 39 ราย และคลัสเตอร์ตลาดพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดถึง 66 ราย

สำหรับจังหวัดที่มียอดติดเชื้อใหม่รองลงมา อันดับ 2 เป็นสมุทรปราการ 983 ราย 3.ชลบุรี 610 ราย 4.นนทบุรี 578 ราย 5.ภูเก็ต 399 ราย 6.นครราชสีมา 341 ราย 7.เชียงใหม่ 212 ราย 8.ปทุมธานี 197 ราย 9.ขอนแก่น 173 ราย และอันดับ 10 นครศรีธรรมราช และมหาสารคาม จำนวนเท่ากันคือ 162 ราย

ส่วนผู้เสียชีวิต 17 รายในวันนี้ เป็นชาย 7 ราย หญิง 10 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด ค่ามัธยฐานหลังทราบการติดเชื้อจนเสียชีวิตอยู่ที่ 4 วัน นานสุด 17 วัน และเป็นกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 14 ราย คิดเป็น 82% มีอายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 18% โดยปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคไต ผู้ป่วยติดเตียง และปัจจัยเสี่ยงจาการติดเชื้อยังมาจากคนใกล้ชิด คนรู้จัก รวมถึงคนในครอบครัว

และเมื่อแยกตามพื้นที่พบว่าผู้เสียชีวิตวันนี้อยู่ในกรุงเทพมหานคร 2 ราย ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี รวม 4 ราย เชียงราย แม่ฮ่องสอน รวม 2 ราย ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช สงขลา รวม 4 ราย พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ รวม 5 ราย และวันนี้ในจังหวัดปริมณฑลไม่มีผู้เสียชีวิต

รัสเซียเดินทางมาไทยมากสุด

ส่วนตัวเลขผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้เดินทางเข้ามารวม 36,362 ราย พบผู้ติดเชื้อโควิด 1,280 ราย คิดเป็น 3.52%

ขณะที่ผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศวันนี้ 202 ราย ยังมาจากรัสเซียมากที่สุด 88 ราย รองลงมาเป็นคาซัคสถาน 27 ราย ยูเครน 12 ราย เยอรมนี 8 ราย ฝรั่งเศส 7 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 6 ราย อินเดีย 4 ราย ที่เหลือกระจายไปอีก 28 ประเทศ ประเทศละ 1-3 ราย

สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 398,093,224 ราย อาการรุนแรง 90,367 ราย รักษาหายแล้ว 317,637,345 ราย และเสียชีวิต 5,768,797 ราย

ส่วนอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 78,370,774 ราย 2.อินเดีย จำนวน 42,334,521 ราย 3.บราซิล จำนวน 26,605,137 ราย4.ฝรั่งเศส จำนวน 20,804,372 ราย 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 17,866,632 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 30 ของโลก จากจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,517,869 ราย