อนุทินยันยาฟาวิฯ ไม่มีขาดแคลน แจงแพทย์ชนบท สงสัยก็ถามมา ปลัดกระทรวงจะชี้แจงหรือไม่ก็อีกเรื่อง ต่างคนต่างทำหน้าที่ ขอให้เชื่อข้อมูลกระทรวง เป็นข้อมูลที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด
วันที่ 29 มีนาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่เคยปิดบังข้อมูล ยังบริหารจัดการได้อยู่ ส่วนกรณีกลุ่มแพทย์ชนบท ระบุว่ายาฟาวิพิราเวียร์ ขาดแคลนนั้น ยืนยันว่า ยายังมีตลอด ทั้งผลิตในประเทศและนำเข้ามา โดยยังมี ยาโมลนูพิราเวียร์ และแพกซ์โลวิคเข้ามาเสริมอีก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
เมื่อถามว่า ภายในกลุ่มของหมอก็อาจยังไม่เข้าใจกัน นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่เกิดครั้งแรก แต่คนที่ทำงาน สั่งยา และอยู่ใกล้ชิดข้อมูล คือสำนักงานปลัดสาธารณสุข กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม ส่วนกลุ่มอื่นที่ตั้งข้อสงสัย ก็ไม่ใช่หน้าที่ของปลัดประทรวงต้องไปชี้แจงชมรมแพทย์ชนบท เพราะถ้าแยกการทำงาน แต่ละคนก็คือ ลูกน้องของปลัดกระทรวง จะถามมาก็ได้ แต่ปลัดกระทรวงจะชี้แจงหรือไม่ เป็นเรื่องของปลัด และที่จริงก็เป็นคนละหน้าที่กัน
“แพทย์มีหน้าที่รักษาคนไข้ให้ดี อย่าให้มีการเจ็บป่วยหนักและเสียชีวิต ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็จะไม่มีปัญหาอะไร ขออย่าทำความหวั่นไหวหรือหวาดวิตกให้เกิดกับประชาชน เพราะสถานการณ์อยู่ในการควบคุมได้ในระดับหนึ่ง และเราถือว่าเข้มกว่าประเทศอื่น เข้มกว่าประเทศที่เขาไม่กลัว เพราะต้องการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อประชาชน”
เมื่อถามว่าจากกรณีดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน นายอนุทินกล่าวว่า ให้เชื่อข้อมูลของกระทรวงซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด และเป็นจริง เพราะปลัดกระทรวงเป็นประธานศูนย์ปฏิบัติการสาธารณสุข,ประธานโควิดแห่งชาติด้านสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมทุก 7 โมงเช้า ทราบข้อมูลทุกวัน ถ้าไม่เชื่อหัวหน้าแพทย์ของประเทศไทย แล้วไปกังวลในสิ่งที่ไม่ควรกังวล
ขอย้ำว่าถ้ามีปัญหาจริง ก็จะบอกว่าตอนนี้มีปัญหาแล้ว เหมือนกับที่เคยบอกให้ใส่หน้ากากอนามัย ต้องล็อกดาวน์ หรือสถานการณ์ไม่ดี ยืนยันไม่มีปิดบังประชาชนอยู่แล้ว ขอให้เชื่อมั่นในกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นสถาบันไม่ใช่เป็นตัวแทนของรัฐมนตรี ของปลัด หรือของแพทย์คนไหน เราต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอยู่แล้ว