“เจ มาร์ท” ควัก 80 ล้าน ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ผนึกพันธมิตรอัพสปีดธุรกิจ

“เจ มาร์ท”ปรับภาพลักษณ์แบรนด์

“เจ มาร์ท กรุ๊ป” ควักเงินกว่า 80 ล้านบาท ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ สะท้อนการทำงานแบบมืออาชีพ ชูแนวคิด ใช้ “ใจ” ขับเคลื่อน และสร้างเครือข่ายพันธมิตร เสริมแกร่ง ธุรกิจ “ค้าปลีก-การเงิน-อสังหาริมทรัพย์” พร้อมเปิดกว้างขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ นำร่องธุรกิจอาหาร ตั้งเป้าอัพสปีดมูลค่ากิจการทะลุ 5 แสนล้านบาท ในปี 2567

วันที่ 4 ตุลาคม 2565 นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 35 เจ มาร์ท กรุ๊ป ได้ประกาศภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ และเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดภายใต้แนวคิดในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย “ใจ”

อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา

โดยจะใช้งบประมาณต่อเนื่องถึงปีหน้ากว่า 80 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจกับกลุ่มพันธมิตร นักลงทุน ลูกค้า ประชาชน ตลอดจนพนักงานทั่วประเทศ จากความร่วมมือ (Synergy) ที่เกิดขึ้นจากขยายการลงทุนผ่าน 20 บริษัทในเครือ และการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตร เพื่อส่งเสริมธุรกิจในอนาคตให้เติบโตแบบทวีคูณ (Exponential Business Model) กับเป้าหมายมูลค่ากิจการรวมกลุ่มบริษัทที่ 500,000 ล้านบาท ภายในปี 2567

โดยภายในปี 2567 จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชน บิ้กดาต้า และนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาใช้ในธุรกิจค้าปลีก พัฒนารูปแบบธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจการเงินให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน ลดหนี้ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

“เราปรับแนวคิดทางธุรกิจ และค่านิยมใหม่ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 35 ด้วยความเชื่อในเรื่องของการทำทุกสิ่งด้วย ใจ ที่จะเป็นจุดยืนแบรนด์ และใช้ขับเคลื่อนการเติบโตของ 20 บริษัทในเครือ ในฐานะแบรนด์ที่มีความจริงใจ และเป้าหมายที่ต้องการมีส่วนในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย มองหาโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และการลงทุนร่วมกับพันธมิตร”

“เจ มาร์ท”ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ผนึกพันธมิตรอัพสปีดธุรกิจ

ด้านนายเอกชัย สุขุมวิทยา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เสริมว่า แนวคิดธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย “ใจ” ของ เจ มาร์ท กรุ๊ป มีภาพความสำเร็จของทุกบริษัทในเครือที่ชัดเจนขึ้น เพื่อก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน แบบ J Curve ด้วยการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพทางธุรกิจ และผนึกกำลังกับพันธมิตรอย่างเปิดกว้างเพื่อต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างโมเดลการเติบโตแบบทวีคูณ (Exponential Business Model) ร่วมกัน โดยตั้งเป้าภาพรวมกำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ที่ผ่านมา เจ มาร์ท กรุ๊ป มีความร่วมมือในธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อสร้างธุรกิจต่อยอดในอนาคต อาทิ กับกลุ่ม BTS เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจค้าปลีกและการเงิน, กับ บมจ.กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง พัฒนาการขายผลิตภัณฑ์โซลาร์ รูฟท็อป ให้ลูกค้า และเข้าไปลงทุนกับกลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ เพื่อขยายอีโคซิสเต็มในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก และมีแผนเข้าไปลงทุนใน บมจ.พีอาร์ทีอาร์ ผู้ให้บริการด้าน HR Outsource รวมถึงพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจอาหาร เช่น สุกี้ตี๋น้อย ที่บริษัทจะเข้าไปร่วมลงทุน โดยนำความเชี่ยวชาญในการวางระบบธุรกิจเพื่อให้บริษัทสามารถบริหาร และขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

“กรณี สุกี้ตี๋น้อย เราไม่ได้เข้าไปซื้อกิจการ แต่เข้าไปร่วมลงทุนในฐานะพันธมิตร นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการวางระบบต่าง ๆ เพื่อให้เขาสามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และเป็นระบบยิ่งขึ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปร่วมกันเร็ว ๆ นี้ และคงต้องมีการจัดโครงสร้างกันอีกรอบในกลุ่มธุรกิจอาหารที่เพิ่มเติมเข้ามา”

นายเอกชัยกล่าวด้วยว่า การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับคนทั่วไปทั้งที่เป็นลูกค้า, นักลงทุนต่าง ๆ และคนรุ่นใหม่ ๆ ที่สะท้อนถึงการเป็นกลุ่มบริษัทที่บริหารงงานแบบความเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว และไม่ได้มีแต่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ แต่ขยับขยายไปยังธุรกิจการเงิน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเปิดกว้างในการเข้าสู่ธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดบุคคลากรรุ่นใหม่ที่มีความสามารถให้เข้ามาร่วมงานด้วย

“ภาพลักษณ์แบรนด์ที่ใช้ คำว่า ใจ เพื่อสะท้อนแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของเราที่เป็นมาโดยตลอด 30 กว่าปี และจะอยู่ต่อไป เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ เพิ่มความรักในแบรนด์ รวมทั้งสร้างคุณค่าทางอารมณ์แก่ลูกค้า ให้เชื่อมั่นว่าเราจะมอบประโยชน์จากสินค้า และผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ด้วยความเข้าใจการใช้ชีวิตของลูกค้า และจะเคียงข้างมอบความสุขให้ประชาชนในทุกสภาพเศรษฐกิจ”

สำหรับกลุ่มธุรกกิจในเครือ และการร่วมลงทุน ของเจ มาร์ท กรุ๊ป ประกอบด้วย

  • เจมาร์ท โมบาย (Jaymart Mobile) ค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ, สินค้าไอที และอุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ และให้บริการทางการเงินกับลูกค้า : ปัจจุบันมีสาขากว่า 300 แห่งยอดขายกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี
  • เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอริวิสเซ็ส (JMT) บริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และการติดตามหนี้, ซิงเกอร์ ประเทศไทย (ถือหุ้น 25%) ล่าสุดเปิดบริการสินเชื่อทะเบียนรถ โดย SG Capital กับเป้าหมายปล่อยสินเชื่อรถใหม่ และสินเชื่อรถทำเงิน 1.5 หมื่นล้านในสิ้นปี 2565
  • บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล สร้างการเติบโตในการทำธุรกิจค้าปลีก และการเงิน
  • บมจ.เจเอเอส แอสเสท (ถือหุ้น 65.5%) ดำเนินธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าสำหรับผู้ค้าปลีกสินค้าไอที และมือถือภายใต้
  • แบรนด์ “ไอที จังชั่น” และพัฒนาศูนย์การค้า อาทิ เดอะ แจส และแจส กรีน วิลเลจ เป็นต้น
  • บริษัท บีนส์ แอนด์ บราวน์ จำกัด (BB) ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟแบรนด์ “คาซ่า ลาแปง” (Casa Lapin) และ White Café
  • บริษัท เคบี เจ แคปิตอล จำกัด (KB J) ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล (ลงทุนกับ KB Kookmin Card ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ในเกาหลีใต้)