นับตั้งแต่การถือกำเนิดของเทคโนโลยีบล็อกเชน นำโดย Ethereum ปัจจุบันมีบล็อกเชนใหม่ ๆ หลายรูปแบบกำเนิดขึ้นมาแก้ปัญหาสิ่งที่ บล็อกเชนรุ่นพี่ทำไม่ได้ เช่น รองรับธุรกรรมจำนวนมาก มีความปลอดภัย และรวดเร็ว รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง เออาร์, วีอาร์ เกม และเอ็นเอฟที เป็นต้น
กว่าที่แต่ละ “บล็อกเชน” จะเติบโต ต้องมีผู้ขับเคลื่อนผลักดันอยู่เบื้องหลัง เช่น Ethereum มี Ethereum Foundation
- ขาลงยางพารา ราคาร่วงฉุดไม่อยู่ 10 วันราคาตกลงไปแล้ว 7 บาทกว่า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
Tezos Blockchain ก็มี Tezos Foundation ปัจจุบัน “เทโซส” เป็นบล็อกเชนสมาร์ทคอนแทร็กต์ที่มีสกุลเงินดิจิทัล XTZ สำหรับใช้ทำธุรกรรมจัดอยู่อันดับ 41 ในตลาดคริปโตโลก
ประชาชาติธุรกิจ มีโอกาสพูดคุยกับ “เฟรเดอร์ริค ฟังก์” หัวหน้าหน่วยประยุกต์ใช้งาน TZ APAC ถึงการทำงานและภารกิจในการสร้างระบบนิเวศในเอเชีย-แปซิฟิก
จุดกำเนิด “Tezos”
จุดกำเนิดของ “เทโซส” ก่อตั้งโดยสองสามีภรรยา “อาเธอร์-แคเธอลีน แบรต์แมน” อดีตพนักงานมอร์แกนสแตนเลย์ สร้างบล็อกเชนสมาร์ทคอนแทร็กต์ที่ประหยัดพลังงาน ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีคุณสมบัติหลากหลาย ที่ผู้ใช้แก้ไขด้วยตัวเอง จึงอัพเกรดได้โดยไม่ต้องแยกเครือข่าย และมีกลไกการควบคุมโปรโตคอลโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดผ่านการโหวต จึงมีนวัตกรรมแบบกระจายศูนย์ในการบำรุงรักษาเครือข่ายที่ช่วยส่งเสริมระบบนิเวศนักพัฒนาให้เปิดกว้าง
“เฟรเดอร์ริค ฟังก์” กล่าวถึงมุมมองในการปรับใช้บล็อกเชน และการดำเนินงานของ TZ APAC ว่า มีบทบาทส่งเสริมผู้ประกอบการ องค์กรต่าง ๆ และสร้าง TZ APAC EGG Web3 ที่ช่วยให้ผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพด้าน Web3 สร้างโซลูชั่นบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง
TZ APAC ทำหน้าที่ เป็นทั้ง “ผู้สร้าง” และ “ผู้ส่งเสริม” ให้เกิดครีเอเตอร์ เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศของ “เทโซส” ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงองค์กรในเชิงยุทธศาสตร์ที่สนใจปรับใช้บล็อกเชน
“เรามีเครื่องมือ แพลตฟอร์ม เทคโนโลยี และทักษะสำหรับนักพัฒนา แบรนด์หรือองค์กร ที่ต้องการเข้าสู่ระบบนิเวศ Web3 มีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่เข้าใจบริบทที่แตกต่างกันในภูมิภาคเอเชีย”
บทบาท TZ APAC
การทำงานของ TZ APAC มี 2 ส่วน คือ 1.ให้ความรู้ โดยจัดเวิร์กช็อปให้กับนักพัฒนาโดยตรงเพื่อส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนบล็อกเชน ซึ่งระยะเวลาในการทำเวิร์กช็อปจะแตกต่างกันตามลักษณะเฉพาะและประสบการณ์ในการเรียนรู้ของผู้ที่เข้าร่วม มีทั้งคอร์สระยะสั้น และการเรียนรู้ต่อเนื่อง
“บางคนเป็นนักพัฒนาที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว อาจแค่มีคำถามเกี่ยวกับการใช้ภาษาที่ถูกต้อง จึงต้องการการศึกษาเชิงปฏิบัติการเล็กน้อย เพื่อบอกว่าจะใช้ Python บนเทโซสได้อย่างไร แต่บางคนที่ไม่ได้เป็นนักพัฒนาก็อาจจะต้องการเรียนรู้วิธีสร้างเอ็นเอฟที บนเทโซส เป็นต้น”
2. จัด Hackathon ให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมปรับปรุง และพัฒนาระบบนิเวศ (Test Asia) มีเป้าหมายในการผลักดันให้นักพัฒนา และผู้คนเห็นว่าเทคโนโลยีนี้เป็นอย่างไร ส่งเสริมให้เข้ามาในระบบนิเวศ และสนับสนุนให้สร้างนวัตกรรม และแก้ปัญหาต่าง ๆ บนเเพลตฟอร์ม
สร้างสตาร์ตอัพ-คอมมิวนิตี้
“เฟรเดอร์ริค” กล่าวด้วยว่า การทำให้เกิดวัฒนธรรมสตาร์ตอัพ และการบ่มเพาะความรู้ของ TZ APAC คือการจัดมาสเตอร์คลาสบนระบบนิเวศ และหนึ่งในหัวข้อที่มักใช้คือ วิธีสร้างสตาร์ตอัพ หรือบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยภารกิจ
“แฮกกาทอนก่อนหน้านี้ ในเอเชียมีนักพัฒนากว่า 11,000 ราย มาลงทะเบียนซึ่งเป็นจํานวนที่น่าอัศจรรย์ เรากําลังมองหาเงินทุน พยายามทำให้แน่ใจว่าเราได้เปิดระบบนิเวศให้กว้าง และทำให้มันเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคอื่น ๆ ได้ด้วย เราจึงไม่หยุดที่จํานวน แต่พยายามให้ความรู้ให้มากที่สุด และสร้างคอมมิวนิตี้นักพัฒนาขึ้นมา”
สำหรับในประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ การเป็นพันธมิตรกับเทโซสจะทำให้ได้รับการแบ่งปันทรัพยากรต่าง ๆ ความเป็นพันธมิตร และเงินทุนที่จะนำไปสู่การเริ่มต้นสร้างบริษัทสตาร์ตอัพต่อไป
“เราไม่ต้องการบอกพวกเขาว่าเขาต้องทําอะไร แต่บอกว่าถ้าคุณต้องการอะไร เราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในฐานะพันธมิตร ตั้งแต่วันแรกที่คุณเข้ามาเรียนรู้ ไปจนถึงการมีโปรแกรมการบ่มเพาะที่เรารวบรวมทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งความรู้ เทคนิค และเครือข่าย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีโอกาสที่ดีที่สุดในการเป็นสตาร์ตอัพรายต่อไป”
เป้าหมายที่ไม่ใช่รายได้
ผู้บริหาร TZ APAC บอกว่า ไม่ได้เน้นตัวเลขรายได้ แต่มุ่งไปที่การสร้างการเติบโตของอีโคซิสเต็มบนบล็อกเชน
“ตัววัดผลจะเน้นที่การทำ utilization of blockchain หรือการทำให้บล็อกเชนเกิดประโยชน์ใช้สอยมากที่สุด ซึ่งต้องพิจารณา 2 ส่วน คือ 1.จำนวนผู้ใช้รายวันหรือกระเป๋าเงินที่แอ็กทีฟเพิ่มขึ้น และ 2.จำนวนของปฏิสัมพันธ์ของกระเป๋าเงินผู้ใช้งานกับการเรียกใช้สมาร์ทคอนแทร็กต์ที่เติบโตขึ้น”
“เทโซส เป็นบล็อกเชนระดับโลกอยู่แล้ว และเป็นแบรนด์ที่สนับสนุนทีมฟุตบอลเเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราเป็นโอเพ่นซอร์ซที่เปิดโอกาสให้ใครก็ตามที่สนใจพัฒนาโปรเจ็กต์มาสร้างบนเทโซส ทำให้เกิดสตาร์ตอัพ บางครั้งสตาร์ตอัพอาจจะหารายได้โดยเข้าไประดมทุน หรือสร้างธุรกิจเพื่อหาโอกาสเติบโตในขาขึ้นของตลาดคริปโตรอบหน้าก็ได้”
ดันบล็อกเชน Mass Adoption
สำหรับการผลักดันให้บล็อกเชนมีการใช้แพร่หลาย (mass adoption) จะเกิดเมื่อผู้คนได้เรียนรู้อย่างกว้างขวาง ซึ่งคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่จากการได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในรอบหลายปีที่ผ่านมา และเริ่มได้เห็นแล้วว่า การใช้งานในเชิงพาณิชย์ของผู้ประกอบการรายใหญ่กำลังเริ่มต้นขึ้น
“ภาระหน้าที่ของเรา คือทำให้มั่นใจว่า เมื่อมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง จะต้องมีการใช้งานแบบไร้รอยต่อ เราเริ่มเห็นการเติบโตของเอ็นเอฟที ดิจิทัลอาร์ต บนระบบนิเวศ มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ตเนอร์ผู้สร้างสรรค์ผลงานแล้ว ถามว่าการปรับใช้บล็อกเชนในภาคธุรกิจจะใช้เวลากี่ปี ยากที่จะคาดการณ์ แต่เทคโนโลยีปัจจุบันเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เมื่อสตาร์ตอัพเติบโตก็จะโตอย่างรวดเร็ว”
อาเซียนแกร่งสุดเว็บ 3
“เฟรเดอร์ริค” กล่าวถึงประเด็นที่ร้อนแรงของการพัฒนาเทคโนโลยี คือ เว็บ 3 ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงของการพัฒนา เมื่อพิจารณาร่วมกับสภาพตลาดคริปโตเคอร์เรนซี และเอ็นเอฟทีที่ตกต่ำลง เขามองว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดที่จะสร้างนวัตกรรม เว็บ 3 เพราะทุกคนตอนนี้กำลังคาดหวังกับการมาของคลื่นหรือเว็บถัดไป
“เพราะจากการที่ตลาดตกต่ำเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะรอคอยคลื่นลูกต่อไป ตอนนี้โครงการที่ดีจะต้องได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไปได้ เราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เราสามารถให้บริการโซลูชั่น สําหรับสภาวะตลาดขาลงตอนนี้ไม่สําคัญเลย เพราะพวกเราทุกคนเป็นผู้สร้างระบบนิเวศ เรามองจากมุมมองแบบองค์รวม และเราจะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าเราจะยังคงสร้างมันอย่างสม่ำเสมอ”
“เฟรเดอร์ริค” กล่าวอีกด้วยว่า ได้เห็นการเติบโตของพื้นที่เอ็นเอฟทีและเว็บ 3 ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะเทโซส มีคอมมิวนิตี้ของศิลปินผู้สร้างที่ใหญ่มาก ซึ่งจะนำไปสู่การพบปะและสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ทั้งเอ็นเอฟทีไฟ (NFT-Fi) เกมไฟ (Game-Fi) และคอมมิวนิตี้อื่น ๆ เขาจึงคิดว่าคอมมิวนิตี้ของเว็บ 3 จะกลายเป็นประเด็นที่ใหญ่มาก
ในความแตกต่างหลากหลายของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประเทศในอาเซียนมีความเเข็งแกร่งในเรื่องเว็บ 3 เป็นที่สุด อย่างประเทศไทยมีความโดดเด่นในด้านชุมชน DeFi (ระบบการเงินกระจายศูนย์-decentralized finance) ที่แข็งแกร่ง ส่วนในสิงคโปร์แม้จะไม่มีความโดดเด่นด้าน DeFi เลย แต่ก็มีชุมชนเว็บ 3 ที่เข้มแข็งสุด
“สิ่งที่เราจะทำ on top บนความแข็งแกร่งเหล่านี้ คือการทำให้มั่นใจว่าเราได้ปลูกฝังทักษะและความสามารถเพื่อให้เหล่าผู้สร้างและนักพัฒนาได้ช่วยกันขับเคลื่อนพื้นที่ตรงนี้ อย่างในไทยที่เราเริ่มเห็นหลายกลุ่มเคลื่อนย้ายมาสู่เอ็นเอฟที และการเติบโตอย่างเเข็งแกร่งด้าน DeFi เราต้องมองหาวิธีการที่พวกเขาจะเชื่อมต่อความร่วมมือไปยังพื้นที่อื่น ๆ ให้กว้างขวางขึ้น”