ไมโครซอฟท์-LinkedIn เปิดหลักสูตรอัพสกิล 6 สายงานมาแรงยุคดิจิทัล ฟรี

คอร์สฟรี ไมโครซอฟท์ ดิจิทัล
ไมโครซอฟท์ ร่วมมือกับ LinkedIn ในโครงการ Skills for Jobs เดินหน้าอัพสกิลคนไทยผ่านหลักสูตรเรียนฟรีกว่า 350 คอร์ส

ยักษ์ ‘ไมโครซอฟท์’ ร่วมมือกับ LinkedIn เดินหน้าโครงการ Skills for Jobs อัพสกิลคนไทยผ่านหลักสูตรเรียนฟรีกว่า 350 คอร์ส พร้อมรับประกาศนียบัตรระดับ “Career Essentials” รองรับทักษะสำคัญใน 6 ตำแหน่งงานมาแรงยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

วันที่ 7 มกราคม 2566 นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ข้อมูลจาก สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตด้วยอัตราระดับสองหลักในปี 2566 แต่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะไปในทิศทางใด ไมโครซอฟท์ก็มีความตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนของประเทศไทยมาโดยตลอด

ไม่ว่าจะเป็นในด้านเทคโนโลยี จากศักยภาพของนวัตกรรมระดับโลกที่มั่นใจได้ในความปลอดภัย ด้านความร่วมมือ กับเครือข่ายพันธมิตรในหลากหลายภาคส่วนที่ขับเคลื่อน Digital Transformation ไปด้วยกัน และในด้านบุคลากร กับเป้าหมายในการเสริมทักษะให้คนไทย 10 ล้านคน

สำหรับหลักสูตรและประกาศนียบัตรใหม่ทั้งหมดนี้ เป็นผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก LinkedIn และสถาบัน Burning Glass Institute โดยไมโครซอฟท์นำรายการตำแหน่งงานที่เปิดรับบุคลากรมาประมวลผลเพื่อค้นหา 6 ตำแหน่งงานที่มีความต้องการสูงสุด ได้แก่

  • พนักงานธุรการ (Administrative Professional)
  • ผู้จัดการโครงการ (Project Manager)
  • นักวิเคราะห์เชิงธุรกิจ (Business Analyst)
  • ผู้ดูแลระบบไอที (Systems Administrator)
  • นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer)
  • นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst)

‘การประกาศหลักสูตรเพิ่มเติมจาก LinkedIn เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นภายใต้เป้าหมายที่จะผลักดันให้คนไทย ธุรกิจไทย และเศรษฐกิจไทย ก้าวสู่ยุคแห่งการสร้างธุรกิจและนวตกรรมในประเทศที่ Born in Thailand อย่างเต็มตัว’

ต่อยอดโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัล สู่เป้าหมาย 2025

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้ประกาศความสำเร็จในเฟสแรกของ ‘โครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการจ้างงาน’ หลังเปิดตัวเมื่อปี 2563 นับเป็นโครงการหลักเพื่อเสริมสร้างทักษะเชิงดิจิทัลแก่แรงงานไทย ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชน

ทั้งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จ๊อบส์ ดีบี (JobsDB) องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) และมูลนิธิกองทุนไทย

โดยได้พัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลให้แก่ชาวไทย 280,000 คน ผ่านช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ และยังเดินหน้าสานต่อเฟสที่สองด้วยการปลดล็อกศักยภาพและสร้างโอกาสในการจ้างงานให้กับแรงงานชาวไทยเพิ่มเติมอีก 200,000 คน ในปี 2565

และการประกาศขยายโครงการในครั้งนี้จะช่วยสานต่อพันธกิจของไมโครซอฟท์ในการเปิดให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมมากขึ้น ผ่านทางทักษะ เทคโนโลยี และช่องทางในการมุ่งสู่ความสำเร็จ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังคงเคลื่อนเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยทุกหลักสูตรในโครงการนี้เรียนได้ผ่าน LinkedIn ที่เว็บไซต์ opportunity.linkedin.com

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ และ LinkedIn ยังมอบสิทธิในการเป็นสมาชิก LinkedIn Premium รายปี รวมกว่า 50,000 ราย ให้ผู้เรียนมีโอกาสเข้าถึงความรู้และทักษะเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เพื่อปูทางสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดในอาชีพการงาน

และภายใต้โครงการนี้ ไมโครซอฟท์มีเป้าหมายที่จะยกระดับทักษะเชิงดิจิทัลให้กว่า 10 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2025 โดยนับเป็นการต่อยอดจากโครงการ Global Skills Initiative (GSI) ที่ได้ช่วยให้ผู้คนกว่า 80 ล้านคนทั่วโลกได้เข้าถึงทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ทักษะเชิงดิจิทัล และปูทางไปสู่อาชีพการงานที่ดีกว่า

ปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ได้ให้การสนับสนุนกับผู้เรียนรวมกว่า 14 ล้านคนในทวีปเอเชีย ผ่านทางแพลตฟอร์มการเรียนรู้อย่าง LinkedIn และ Microsoft Learn โดยจากจำนวนนี้ คิดเป็นผู้เรียนชาวไทยรวมกว่า 534,000 ราย

สำหรับประเทศไทย จะมีการนำเสนอหลักสูตรเต็มรูปแบบภายใต้ชื่อ LinkedIn Learning Pathways สำหรับทักษะและสายงานต่างๆ ดังนี้: Critical Soft Skills, Project Manager, Digital Marketing Specialist, Financial Analyst, Data Analyst และ Sales Development Representative

ส่วนประกาศนียบัตรระดับ Career Essentials จะช่วยให้ผู้เรียนได้เดินหน้าต่อ จากการสร้างเสริมทักษะดิจิทัลในระดับพื้นฐาน สู่ทักษะเชิงเทคนิคที่ลงลึกยิ่งขึ้น และต่อยอดไปสู่ประกาศนียบัตรและการรับรองมาตรฐานความรู้อื่นๆ ที่ทำให้มีโอกาสในการทำงานมากขึ้น เมื่อเรียนรู้จนสำเร็จหลักสูตรหนึ่งแล้ว ผู้เรียนจะได้รับตรารับรองจาก LinkedIn