รู้จัก “Microsoft 365 Copilot” ฟีเจอร์ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ชวนทำความรู้จัก “Copilot for Microsoft 365” บริการใหม่จาก “Microsoft” ที่ช่วยให้การใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ง่ายขึ้นผ่านการสั่งการด้วยคีย์เวิร์ดสำคัญ

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่ “ChatGPT” เข้ามาพลิกโลกเทคโนโลยี และสร้างความเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจต่าง ๆ แน่นอนว่าการใช้งานแชตบอตหรือ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของใครหลาย ๆ คนแล้ว

นั่นหมายความว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีขั้นสูงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังโปรแกรมหรือระบบต่าง ๆ อีกต่อไป แต่เป็น “ผู้ช่วย” ที่ทำให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น

“ไมโครซอฟท์“ (Microsoft) เป็นหนึ่งในบิ๊กเทคที่ดูจะให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI และต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ล่าสุดได้เปิดให้ลูกค้าองค์กรทั่วโลกใช้งาน “Copilot for Microsoft 365” ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา

Copilot for Microsoft 365 เป็นการนำประสิทธิภาพของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model หรือ LLM) มาเพิ่มคุณสมบัติการใช้งานโปรแกรมใน Microsoft 365 ผ่านการสั่งการด้วยคีย์เวิร์ดหรือข้อความสำคัญ เช่น

  • Outlook มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยสรุปอีเมล์ที่ต่อเนื่องกัน การร่างข้อความตามรูปแบบที่ต้องการ และติดตามการประชุม ผ่าน Teams ได้อย่างสะดวก
  • Word ช่วยสรุปเนื้อหาในเอกสาร ร่างเนื้อหาในการเขียนเอกสารใหม่ และการจัดรูปแบบย่อหน้า
  • Excel สามารถวิเคราะห์ข้อมูล แนะนำสูตรการคำนวณ และสร้างกราฟ
  • PowerPoint สามารถออกแบบสไลด์จากหัวข้อและเนื้อหาที่ต้องการได้
  • OneNote ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น และสรุปบันทึกย่อได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม
  • Teams ช่วยสรุปเนื้อหาสำคัญจากการประชุม
  • Stream ช่วยค้นหาข้อมูลเซิงลึกจากวิดีโอบนแพลตฟอร์มได้ดีขึ้น
  • OneDrive ช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในคลังไฟล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

ปัจจุบัน Copilot for Microsoft 365 ให้บริการลูกค้าองค์กรในไทยผ่านการร่วมทดสอบในโปรเจ็กต์ Early Access Program (EAP) จำนวน 6 ราย เช่น เอไอเอส (AIS), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ปตท.สผ. เป็นต้น

นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ทำการสำรวจความคิดเห็นและแนวทางการใช้งาน Copilot ของลูกค้าองค์กรใน 41 ประเทศทั่วโลก (ไม่รวมข้อมูลผู้ใช้ในประเทศไทย) พบว่า

  • ผู้ใช้ Copilot ถึง 70% ระบุว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 68% รู้สึกว่าผลงานมีคุณภาพมากขึ้น
  • ผู้ใช้ Copilot สามารถทำงานประเภทการค้นหาข้อมูล งานเขียน และการสรุปเนื้อหาต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น 29%
  • ผู้ใช้ Copilot สามารถติดตามเนื้อหาและประเด็นสำคัญในการประชุมที่ตนเองไม่ได้เข้าร่วมได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่าตัว
  • ผู้ใช้ราว 64% เผยว่าใช้เวลาน้อยลงในการจัดการกับอีเมล ขณะที่ 85% สามารถเขียนงานดราฟท์แรกออกมาได้เร็วขึ้น และ 75% ค้นหาเอกสารที่ต้องการได้เร็วขึ้น
  • ผู้ใช้ Copilot 77% ต้องการใช้งานต่อไปในอนาคต

นายธนาวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า AI นับเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ เรามุ่งมั่นวิจัยและพัฒนา AI ที่ผสมผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ มีบทบาทเป็น Copilot พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ใช้และองค์กรธุรกิจในทุกระดับให้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

“ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ AI เป็นเหมือนผู้ช่วยที่ทำให้การทำงานเร็วขึ้น ซึ่งเสียงตอบรับจากองค์กรที่นำ Copilot ไปใช้งานจริงก็ยืนยันว่า productivity ในองค์กรเพิ่มขึ้นราว 15-20% รวมถึงยังช่วยจัดการงานที่ซ้ำซ้อน ส่วนพนักงานก็ใช้เวลาในการทำงานน้อยลง”