
“Accenture” เข้าซื้อกิจการ “แรบบิทส์ เทล“ เอเจนซีโฆษณาสัญชาติไทย ยกระดับการทำงานของกลุ่มธุรกิจครีเอทีฟ “Accenture Song”
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 รายงานข่าวจากบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ “เอคเซนเชอร์” (Accenture) เปิดเผยว่า เอคเซนเชอร์บรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญในการเข้าซื้อกิจการ แรบบิทส์ เทล ครีเอทีฟ และ DCX (digital customer experience) เอเจนซีสัญชาติไทย เพื่อเสริมขีดความสามารถด้านครีเอทีฟ แบรนด์ และดาต้าในระดับภูมิภาคของ “Accenture Song” กลุ่มธุรกิจครีเอทีฟที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขนาดใหญ่
รายงานระบุว่า แรบบิทส์ เทล ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดยนำเสนอโซลูชัน DCX ที่ตอบโจทย์ตั้งแต่ประสบการณ์ค้าปลีก การบริหารจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ และโปรแกรมสร้างความภักดี การตลาดเชิงลึกเฉพาะบุคคล (hyper-personalized marketing) ไปจนถึงการออกแบบประสบการณ์ และการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล
ปัจจุบันทีมงานของแรบบิทส์ เทล ประกอบด้วยพนักงานราว 120 คน ในกลุ่มธุรกิจ Advertising, Data & Interactive และ Customer Experience (CX)
อย่างไรก็ตาม แรบบิทส์ เทล ถือเป็นหนึ่งในเอเจนซีโฆษณาที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงของไทย รวมทั้งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 เอเจนซียอดเยี่ยมประจําปี 2022 จากงาน Adman Awards จัดโดยสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ทำให้ความร่วมมือกับแรบบิทส์ เทล จะมาพร้อมกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ทรงพลัง ขับเคลื่อนดิจิทัลคอนเทนต์ และใช้ข้อมูลในการสร้างประสบการณ์ (data-driven experiences) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ แรบบิทส์ เทลยังมีผลงานการพัฒนาสื่อโฆษณากับแบรนด์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ครอบคลุมกลุ่มสินค้าและบริการด้านอุปโภคบริโภค ยานยนต์ การสื่อสารและมีเดีย บริการทางการเงิน และธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยี ได้แก่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า กลุ่มซีพี อายิโนะโมะโต๊ะ ดอยคำ GQ Apparel อีเลคโทรลักซ์ นีโอ คอร์ปอเรท และธนาคารไทยพาณิชย์
การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว จะช่วยให้ธุรกิจก้าวทันไปกับการปรับเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลเพื่อสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้กับแบรนด์ พร้อมดึงลูกค้าให้เข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งไทยเป็นหนึ่งใน 3 ตลาดหลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เอคเซนเชอร์ให้ความสำคัญ เป็นตลาดที่มียอดค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้น 9.12% จากปี 2564 เป็น 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.26 แสนล้านบาท) ในปี 2565
นายโทมัส มูริตเซน ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Accenture Song กล่าวว่า ความคาดหวังของผู้บริโภคและพนักงานได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องแสวงหาพันธมิตรที่มีความพร้อมทั้งด้านขนาดและทักษะในการสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการเติบโตในอนาคต
“แรบบิทส์ เทล จะเป็นอาวุธสำคัญ ในการเสริมศักยภาพของ Accenture Song ในระดับภูมิภาค สามารถนำพลังของข้อมูล นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอคเซนเชอร์ในการลงทุนอย่างต่อเนื่องและพันธะสัญญาที่มีต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ในการสนับสนุนธุรกิจไทยและส่งเสริมผู้เชี่ยวชาญในประเทศให้สามารถสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่มีความหมายและเฉพาะบุคคลในเชิงลึก ตอบสนองความต้องการและความชอบที่เฉพาะเจาะจงของตลาดในประเทศ เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาหลอมรวมกับความคิดสร้างสรรค์ จะเป็นพลังให้ธุรกิจมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและพนักงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้แบรนด์มีความแตกต่างและโดดเด่น ลูกค้ามีความพึงพอใจและภักดีกับแบรนด์มากขึ้น
“บุคลากรที่มากความสามารถและความเชี่ยวชาญของแรบบิทส์ เทล จะช่วยเสริมแกร่งให้กับเอคเซนเชอร์ในตลาดไทย ทำให้บริษัทมีความพร้อมที่จะสนับสนุนภาคเอกชนของไทยให้เติบโต ด้วยโซลูชั่นพิเศษเฉพาะตัวที่สามารถรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนได้ เมื่อบุคลากรที่มากความสามารถมาผนวกกับความเชี่ยวชาญ จะเป็นแรงผลักดันให้ไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคนี้ได้ในที่สุด”
ด้าน นายสุนาถ ธนสารอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรบบิทส์ เทล จํากัด กล่าวว่า การนำความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่มาผนวกกับเทคโนโลยีก้าวล้ำ เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ถือเป็นปณิธานของบริษัทมาโดยตลอด บริษัทจึงตื่นเต้นกับบทใหม่ในการเติบโตไปกับ Accenture Song
“Accenture Song ถือเป็นผู้นําอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวนำ พร้อมกับการมีข้อมูลและเทคโนโลยีรองรับ และมีบทบาทในการช่วยธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ยกระดับและสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมา”
นอกจากนี้ นายสุนาถยังกล่าวถึงการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยว่า ปี 2017 เรียกได้ว่าเป็นปีทองของพวกเราเลยก็ได้ ลูกค้าก็ดี ยอดก็ได้ รางวัลก็มี เป็นปีที่ความสำเร็จต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย สิ่งเหล่านี้น่าจะมีคนเห็นบ้าง แต่สิ่งที่คนอื่นไม่เห็น คือปีนั้นเป็นปีแรกที่เราเริ่มพูดคุยกับ Accenture
“ถ้านับตั้งแต่วันนั้นก็ 6 ปีเข้าไปแล้ว ตลอดระยะเวลาที่มีการติดต่อกัน ก็ไม่ใช่ว่าจะมีผู้สนใจรายเดียว แต่หลังจากผ่านไปหลายปี เรียนรู้กันและกัน ติดตามผลงานกันมาตลอด เราก็มั่นใจว่าถ้าเราจะเลือก Partner จับมือเดินไปด้วยกัน Accenture นี่แหละคือคนที่ใช่”
นายฟลาวิอาโน ฟาเลย์โร ประธานกลุ่มธุรกิจ Growth Markets ของ Accenture Song กล่าวว่า แผนการเข้าซื้อกิจการแรบบิทส์ เทล ตอบโจทย์กลยุทธ์ของเราในการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถสร้างโรดแมปใหม่เพื่อต่อยอดการเติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกับมีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่ง 97% ของผู้บริหาร C-suite ให้ความเห็นว่า digital transformation จะช่วยให้ก้าวทันยุคได้เท่านั้น แต่ไม่นำไปสู่การเติบโตขององค์กร หรือทำให้รู้ใจและใกล้ชิดกับลูกค้า (customer relevance) มากขึ้น
“ขีดความสามารถของแรบบิทส์ เทลในด้านครีเอทีฟและ DCX จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้บริษัทสามารถพัฒนาและปรับสเกลโซลูชั่นด้านครีเอทีฟและ DCX ในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงได้ และจะช่วยเสริมศักยภาพความเป็นเลิศในตลาดของ Accenture Song สามารถดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นการตอบโจทย์ชีวิต (life-centric approach) เพื่อเข้าถึงลูกค้าของบริษัทได้มากขึ้น เท่าทันความต้องการและการจัดลำดับความสําคัญของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ต่อยอดให้เกิดการเติบโตในระยะยาว”
รายงานระบุด้วยว่า ข้อตกลงกับแรบบิทส์ เทล นับเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งที่สามของ Accenture Song ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ได้เข้าซื้อ Romp และ Entropia เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการช่วยให้ลูกค้าเติบโต พัฒนานวัตกรรม และรักษาบทบาทที่สำคัญในตลาดเอาไว้ได้ สำหรับการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ ในระดับโลก ได้แก่ ConcentricLife, Fiftyfive5 และ The Stable
ทั้งนี่ บริษัท Zero Publishing และบริษัท Rabbit’s Tale Public Relations ไม่ได้อยู่ในธุรกรรมการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ และจะดําเนินธุรกิจโดยอิสระต่อไป โดยบริษัท Rabbit’s Tale Public Relations จะรีแบรนด์ใหม่ในชื่อบริษัท Moonshot Digital
อย่างไรก็ตาม รายงานยังไม่ได้เปิดเผยข้อกำหนดต่าง ๆ ในธุรกรรม ซึ่งการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดธุรกรรมตามที่ได้ตกลงกัน