เอลซัลวาดอร์หลุดดอย ยืนยันไม่เปลี่ยนนโยบาย-ไม่ขาย Bitcoin

เอลซัลวาดอร์มีมูลค่าทุนสำรองจาก Bitcoin เพิ่มขึ้น 40% เป็น 160 ล้านเหรียญสหรัฐ ประธานาธิบดียืนยันไม่เปลี่ยนนโยบายจากปัจจุบันที่ให้ใช้ Bitcoin เป็น Legal Tender และไม่ขายออก

หลัง Bitcoin ทำราคาแตะ 70,000 เหรียญสหรัฐไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ชุมชนคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มพูดถึง “เอลซัลวาดอร์” ประเทศแรกในโลกที่ประกาศให้ Bitcoin เป็นเงินที่ใช้จ่ายและชำระหนี้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย (Legal Tender) และได้ทยอยซื้อ Bitcoin เก็บเป็นเงินสำรองตั้งแต่ปี 2021 ที่ราคาเฉลี่ย 44,000 เหรียญสหรัฐ รวมแล้ว 2,764 BTC ที่งบประมาณราว 120 ล้านเหรียญสหรัฐ

“นายิบ บูเกเล่” ประธานนาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ได้ประกาศว่าจะสนับสนุนอีโคซิสเต็มการใช้งานและการขุดเหมือง Bitcoin อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตลาดคริปโตฯเข้าสู่วัฏจักรขาลงในช่วงปลายปี 2022-2023 กระแสของเขาก็ซบเซาลง

ทั้งยังทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรในประเทศหรือต่างประเทศที่มองว่า “บูเกเล่” นำระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่มีความมั่นคงทางการเงินอยู่แล้วเข้าไปพัวพันกับระบบการเงินคริปโตฯที่เสี่ยงยิ่งกว่า หรือทำให้คนทั้งประเทศ “ติดดอย” หลังจาก Bitcoin ไปทำจุดสูงสุดที่ 69,000 เหรียญสหรัฐในปี 2022 และร่วงลงมาถึง 15,000 เหรียญสหรัฐ แทบจะทำให้เงินของประเทศที่นำไปซื้อ Bitcoin เกือบสูญสิ้น

อย่างไรก็ตาม มูลค่าของ Bitcoin เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2023 ตอนนี้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ในวันที่ 5 มีนาคม 2024 และแตะ 70,000 เหรียญสหรัฐ เมื่อ 9 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ผลักดันมูลค่าการถือครองของประเทศเป็น 164.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 40-53% จากต้นทุนการลงทุนทั้งหมด Bitcoin แต่ละตัวได้มาในราคาเฉลี่ย 44,300 เหรียญสหรัฐ/BTC

“นายิบ บูเกเล่” เพิ่งได้รับเลือกตั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดงภาพกลยุทธ์ Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ และยืนยันจุดยืนของประเทศที่จะไม่ขายสินทรัพย์ Bitcoin

การยอมรับ “มาตรฐาน Bitcoin” ของ “บูเกเล่” ทำให้เอลซัลวาดอร์เป็นรัฐชาติเดียวที่รวม Bitcoin เข้ากับเศรษฐกิจของตนอย่างเป็นทางการ แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์นโยบายนี้จากรอบทิศ ไม่ว่าจะเป็น IMF นักการธนาคารของรัฐ ตลอดจนสื่อเศรษฐกิจกระแสหลักของโลก แต่ “บูเกเล่” ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

จากนโยบายการโอบรับความหลากหลายของความเชื่อและวัฒนธรรม และการเดินหน้าปราบแก๊งอาชญากรอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาครับและสังคมมีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น ส่งผลให้การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและการเงินการคลังของประเทศที่ยังเป็นประเด็นฮอตที่เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถสั่นคลอนความนิยมได้