กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เตือนรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ หยุดใช้บิตคอยน์ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
วันที่ 26 มกราคม 2565 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกโรงเตือนรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ให้เปลี่ยนใจและยุติการใช้บิตคอยน์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (legal tender) พร้อมชี้ว่าคริปโทเคอร์เรนซีคือความเสี่ยงมหาศาล
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ชาติอเมริกากลางอย่างเอลซัลวาดอร์ ประกาศตัวเป็นประเทศแรกในโลกที่รับรองการใช้เงินดิจิทัลในชีวิตประจำวัน อนุญาตให้ผู้บริโภคใช้ได้ในทุกธุรกิจการค้าพร้อมไปกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน 2564
ข้อเรียกร้องล่าสุดของไอเอ็มเอฟให้เอลซัลวาดอร์คิดใหม่ปรับใหม่ในเรื่องนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่กระแสมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซีดิ่งหนักในการซื้อขายที่วอลล์สตรีตช่วงไม่กี่วันมานี้ เป็นหนังคนละเรื่องกับมูลค่าที่พุ่งเป็นสถิติเมื่อปีก่อน
ทางทีมงานไอเอ็มเอฟเคยเรียกร้องให้นายนายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ทบทวนเรื่องการชูบิตคอยน์มาเป็นใจกลางการเงินของประเทศ ส่วนคำแถลงล่าสุดนี้ใช้ถ้อยคำที่หนักแน่นขึ้น หลังการประชุมบอร์ดไอเอ็มเอฟที่มีสมาชิกรัฐบาลชาติต่าง ๆ เข้าร่วม รวมถึงสหรัฐอเมริกา
แถลงการณ์ของคณะกรรมการบอร์ดไอเอ็มเอฟระบุว่า “ขอให้บรรดาเจ้าหน้าที่ตีกรอบกฎหมายบิตคอยน์ให้แคบลง โดยปลดสถานะเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายของบิตคอยน์ออกไป” และ “ขอย้ำว่า มีความเสี่ยงมหาศาลที่การใช้บิตคอยน์จะกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงิน ความมั่นคงทางการเงิน และการคุ้มครองผู้บริโภค”
ทั้งนี้ ราคาซื้อขายบิตคอยน์เมื่อวันที่ 25 ม.ค. อยู่ที่ราว 37,000 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าหายไปกว่าครึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ทำสถิติ 67,734 ดอลลาร์
แกร์รี ไรซ์ โฆษกไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ไอเอ็มเอฟวิตกกับคริปโทเคอร์เรนซีตั้งแต่แรกเริ่ม ก่อนที่ประธานาธิบดีบูเคเลจะขับเคลื่อนบิตคอยน์อย่างเป็นทางการ
“การเห็นชอบให้บิตคอยน์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ทำให้เกิดประเด็นมากมายทางเศรษฐกิจมหภาค การเงินการคลัง และกฎหมายที่จำเป็นต้องวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง” นายไรซ์กล่าว