สงกรานต์ 2567 คนแน่น สัญญาณมือถือช้า แก้ปัญหาอย่างง่ายได้อย่างไร

ส่องวิธีแก้ปัญหาสัญญาณมือถือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยเสถียรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่หลายคนนึกไม่ถึง ด้วยการสลับการเชื่อมต่อสัญญาณ

ในช่วงเทศกาลสำคัญไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ หรือ สงกรานต์ สิ่งที่ตามมาเมื่อมีคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่เดียว คือ ความหนาแน่นของการใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบางครั้งทำให้การท่องเว็บ หรืออัพโหลดภาพวิดีโอบนโซเชียลมีเดียติดขัดล่าช้า จะติดต่อกับเพื่อน กับครอบครัวในพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ก็ประสบปัญหา

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมวิธีง่าย ๆ คือการ “สลับเครือข่าย” การใช้ข้อมูล ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนนึกไม่ถึง

ปริมาณการใช้ดาต้าของคนไทยเพิ่มสูงขึ้น

รายงาน Digital 2024: Thailand เก็บข้อมูลในปี 2023 ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 63.21 ล้านคน ใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือ 98.3% ส่วนใหญ่ใช้เพื่อค้นหาข้อมูล 64% และติดตามข่าวสาร (รวมใช้โซเชียลมีเดีย 60.3% ส่วนการรับชมวิดีโอ-ภาพยนตร์ อยู่ที่ 58%

เมื่อพิจารณาการใช้เว็บหรือแอป พบว่า คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อโซเชียลมีเดีย และแอปส่งข้อความ ถึง 98% ขณะที่เสิร์ชเอ็นจิ้นอยู่ที่ 86.6% เท่านั้น

สปีดอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย ดาวน์โหลดอยู่ที่ 40.69 MBPS เพิ่มจากปีก่อนหน้า 7.5% อัปโหลด 15.58 MBPS เพิ่มจากปีก่อนหน้า 0.5%

พฤติกรรมการใช้งานภาพรวมก็เปลี่ยนไป เนื่องจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีแนวโน้มจะเป็น “วิดีโอสั้น” ซึ่งทำให้มีการบริโภคข้อมูลอินเทอร์เน็ตมากขึ้น สะท้อนได้จากข้อมูลการดาวน์โหลดที่เพิ่มสูงขึ้น 7.5% ต่อปี ประกอบความเร็วอินเทอร์เน็ตเร็วขึ้นแรงขึ้นทำให้คนไม่รู้สึกตัวว่าสูญเสียปริมาณการใช้ข้อมูลไปกับโซเชียลมีเดีย

5G ไม่จำเป็นเสมอไป

จากข้อมูลการใช้งานดาต้าในชีวิตประจำวันของคนไทยข้างต้น ที่นิยมใช้งานโซเชียลมีเดีย และค้นหาข่าวสารบนเว็บมากที่สุดนั้น ลำพังคลื่น 4G ก็เพียงพอแล้ว

สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ ตั้งแแต่ปี  2022 เป็นต้นมาล้วนมีศักยภาพที่จะรองรับย่านความถี่ 5G แล้ว แต่ต้องไม่ลืมว่าคลื่น 5G นอกจากจะใช้งานกับโทรศัพท์ธรรมดาแล้วยังมีศักยภาพในการถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวดเร็วยิ่งขึ้นจึงรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย

แม้ว่าโดยรวมการใช้งาน 5G เพื่อโซเชียลมีเดีย วิดีโอ เกม และอื่นๆ จะช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลราบรื่นกว่า แต่ก็แลกมาด้วยการบริโภคข้อมูลมหาศาลและการใช้พลังงานสูงในโทรศัพท์บางรุ่นด้วย

ประกอบกับค่ายมือถือ มุ่งเน้นการขยายแพ็กเกจ 5G ซึ่งทำให้ฐานผู้ใช้ 5G ของ “ทรู” เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.5 ล้านเลขหมาย ขณะที่ “เอไอเอส” อยู่ที่ 9.2 ล้านเลขหมาย (ตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2566) ทั้งนี้พื้นที่กว่า 90% ของประเทศไทยล้วนรองรับ โครงข่าย 5G เราจึงไม่ต้องแปลกใจว่าเมื่อมีการจัดงาน หรือการรวมคนในพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างในเทศกาลสงกรานต์ เราจะได้พบเจอกับคนที่ใช้เน็ตเวิร์ก 5G มากขึ้น

และเมื่อมีปริมาณใช้งานมากขึ้น ทราฟฟิก หรือความหนาแน่นของเครือข่ายจะเพิ่มขึ้นตาม แม้ทางเครือข่ายมือถือจะจัดให้มีรถ CoW หรือสถานีฐานเคลื่อนที่เพื่อรองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่นแล้ว อาจจะกระบการใช้งานบางช่วงอยู่บ้าง

สลับการเชื่อมต่อคลื่นช่วยได้

ดังนั้นในบางครั้งวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อให้การใช้งานราบรื่นในวันที่ ทราฟฟิก 5G หนาแน่น ให้ลองสลับคลื่นไปใช้ 4G ในบางคราว หากคนเยอะจนสัญญาณหาย ก็คงต้องออกมาให้พ้นพื้นที่ก่อน

ปกติโทรศัพท์มือถือของเราจะสลับการใช้งานเครือข่ายให้โดยอัตโนมัติ เมื่อไม่สามารถเกี่ยวเอาคลื่นความถี่ที่แรงกว่าได้ เราจึงมักพบว่ามือถือ 5G เราใช้งานอยู่ดีๆ ก็ขึ้นโชว์ 4G หรือ H+ (3G) เสียอย่างนั้น แต่หากเราสลับใช้เครือข่ายด้วยมือก็จะช่วยลดความล่าช้าในการพยายามตรวจจับและเชื่อมต่อกับ 5G ได้แต่เนิ่นๆ ทำให้การลื่นไหลขึ้น

สลับมือถือแอนดรอยด์ ใช้งานได้โดยเข้าไปที่โหมด “ข้อมูลมือถือ” โดยเข้าไปที่ “ตั้งค่า” จากนั้นไปที่  “กการเชื่อมต่อ” และแตะตรง “เครือข่ายมือถือ”

วิธีการสลับการเชื่อมต่อสัญญาณบนระบบแอนดรอยน์ (screenshot จาก Samsung Galaxy s24 ultra)

จากตรงนี้เราจะเห็นว่าบางรุ่น ใช้งานได้สองซิม ก็สามารถเลือก “โหมดเครือข่ายSIM1/SIM2” และจะมีให้เราเลือกว่าจะใช้เครือข่ายใด 5G, LTE(4G), 3G และ 2G

ส่วนมือถือ iOS เข้าไปที่ “ตั้งค่า” จากนั้นไปที่ “เซลลูล่า” จากนั้นเลือก “ซิม” ในกรณีที่ใช้หลายซิมให้เลือกซิมที่มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต

วิธีการสลับการเชื่อมต่อสัญญาณระบบ iOS (screenshot จาก iPhone12 Pro)

จากนั้นไปที่ “เสียงและข้อมูล” ก็จะมีให้เลือกว่าจะใช้เครือข่าย 4G หรือ 5G และเลือกให้เชื่อมต่อตลอดเวลาหรือแบบอัตโนมัติได้

อย่างไรก็ตาม การสลับใช้สัญญาณมือถือ เป็นเพียงการแก้ปัญหาในเบื้องต้น ซึ่งทำได้เพียงช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้น หรือ “รู้สึกดีขึ้น” แต่การวัดความเร็ว แรง หรือความหน่วงในเชิงเทคนิคนั้นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนมากกว่านี้

หรืออาจใช้วิธีการซื้อแพกเก็จเสริม รูปแบบใหม่ๆ เช่น Network on demands หรืออื่นๆ เพื่อให้มีความเร็วเพียงพอต่อปริมาณการใช้งานมือถือของตน