กสทช. ขันนอต “ซิม” ชื่อไม่ตรง Mobile Banking ไม่ยืนยันตัวตนใหม่ ลบบัญชี

กสทช.ผนึก ปปง.-ธนาคารพาณิชย์ ขันนอตการคัดกรองบัญชีซิมเถื่อนที่เชื่อมโยงบัญชีโมบายแบงกิ้ง 106 ล้านบัญชี จากบัญชีธนาคารทั้งหมด 130 ล้านบัญชี ใช้เวลาตรวจสอบ 120 วัน ให้ธนาคารรับช่วงต่อ พิจารณาเงื่อนไข “ระงับ-ไม่ระงับ” บัญชีโมบายแบงกิ้ง

วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ วันนี้เพื่อหารือแนวทางตรวจสอบคัดกรองเบอร์โมบายแบงกิ้ง ที่ผูกกับบัญชีธนาคาร

โดยมีเป้าหมายให้ชื่อผู้จดทะเบียนเบอร์ซิมเลขหมายที่ขอเปิดใช้โมบายแบงกิ้ง และเจ้าของบัญชีธนาคาร ต้องเป็นของบุคคลคนเดียวกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการตัดตอนบัญชีม้าที่ใช้ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ เช่นเดียวกับมาตรการขึ้นทะเบียนผู้ถือครองซิมเกิน 6 เลขหมายขึ้นไปมาแจ้งยืนยันตัวตนใหม่ ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ล้วนเป็นไปเพื่อสกัดปัญหาซิมผีบัญชีม้า

พล.ต.อ.ณัฐธรกล่าวว่า เพื่อเป็นการเร่งขานรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ กสทช.ได้ตั้งทีมงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่

“มาตรการนี้จะสามารถทำให้แต่ละหน่วยงาน สามารถแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลกันได้ โดยการเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างกันของ กสทช.ที่มีข้อมูลผู้ถือครองซิม และธนาคารพาณิชย์ ที่มีข้อมูลบัญชีธนาคารเป็นเจ้าของเดียวกันหรือไม่

ซึ่งการตรวจสอบนี้จะใช้เวลาราว 120 วัน แต่ถ้าเราไม่เริ่มวันนี้ การดำเนินการยิ่งช้า ต้องรีบเริ่ม และต่อไป กสทช.จะพัฒนา API กลางมาเชื่อมต่อฐานข้อมูลระหว่างกัน ทั้งตำรวจ กสทช. และธนาคาร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ จะทำให้การตรวจสอบง่ายขึ้น การเปิดบัญชีโมบายแบงกิ้งโดยมิจฉาชีพจะทำได้ยากขึ้น”

ADVERTISMENT

โดยการดำเนินการ จะมีขั้นตอนดังนี้

1. ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชี (เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขหนังสือเดินทาง) พร้อมเบอร์โทร. โมบายแบงกิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ส่งให้ ปปง. ตามช่องทางที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล

ADVERTISMENT

2. ปปง.รับข้อมูลเลข ID ประจำตัว และเบอร์โมบายแบงกิ้งจากธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ารหัส แล้วเปิดช่องทางสื่อสารข้อมูลให้ กสทช.

3. กสทช. รับข้อมูลดังกล่าวจาก ปปง. นำเบอร์โมบายแบงกิ้งมาแยกเครือข่าย เพื่อส่งตรวจหารายชื่อผู้ถือครอง และตรวจเปรียบเทียบกับรายชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ แล้วแจ้งผลให้ ปปง. และธนาคารทราบ

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิมสังกาศ รองเลขาฯ ปปง. กล่าวว่า หากผลการตรวจคัดกรอง พบชื่อผู้ถือครองซิมการ์ด-โมบายแบงกิ้งไม่ใช่เจ้าของบัญชี ปปง.และธนาคารจะดำเนินการต่อ โดยประชาสัมพันธ์แจ้งเจ้าของบัญชี ให้ดำเนินการเปลี่ยนไปใช้เบอร์ซิมการ์ดที่ตนเป็นเจ้าของ หรือเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองเบอร์เป็นชื่อตน

ยกเว้นมีเหตุผลความจำเป็น เช่น การเปิดโมบายแบงกิ้งให้บุตรหลานที่เป็นเด็กเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เป็นต้น

“เราเริ่มคิกออฟกันวันที่ 27 นี้ที่ ปปง. กับแบงก์ชาติและแบงก์พาณิชย์ ต้องรวมข้อมูลแล้วส่งมา กสทช. ภายในวันที่ 1 มิ.ย. 2567 หากนับ 120 วัน ก็เป็น 30 กันยายน จากนั้นเป็นหน้าที่ของแบงก์พาณิชย์-แบงก์ชาติ ในการกำหนดกรอบเวลา หรือเงื่อนไขให้ประชาชนที่ชื่อไม่ตรงบัญชีมายืนยันตัวตน ปรับข้อมูลให้ตรงใหม่ ธนาคารจะเพิกเฉยไม่ได้”

หากเจ้าของบัญชีไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลง อาจพิจารณาระงับการใช้งานธนาคารออนไลน์ต่อไป สำหรับกรณีขอเปิดใช้โมบายแบงกิ้งรายใหม่ ธนาคารต้องตรวจสอบชื่อเจ้าของบัญชีและเจ้าของเบอร์ต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน

ในส่วนนี้ กสทช.ได้พัฒนาระบบให้ตรวจสอบได้โดยง่าย ผ่านทางแอปพลิเคชั่น 3 ชั้น และบริการ *179* เลขบัตรประชาชน # โทร.ออก

พล.ต.ต.เอกรักษ์เปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบันมีบัญชีธนาคารอยู่ราว 130 บัญชี แต่ผูกกับโมบายแบงกิ้ง 106 บัญชี

อนึ่ง ในประชุมคณะอนุกรรมการวันนี้ ประกอบด้วย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิมสังกาศ รองเลขาฯ ปปง., ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย, ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังได้มีการรายงานความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ถือครองซิมตั้งแต่ 6 หมายเลขขึ้นไป ตามประกาศ กสทช.

โดยกลุ่มที่ 1 (6-100 หมายเลข) จะครบกำหนด 180 วัน ในวันที่ 13 ก.ค. 67 ที่จะถึงนี้ ส่วนกลุ่มที่ 2 (101 หมายเลขขึ้นไป) ซึ่งได้ครบกำหนดไปตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา จากข้อมูลล่าสุด กสทช.ได้ระงับซิมที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศ กสทช.ไปแล้วถึง 2,137,465 เลขหมาย รวมทั้งซิมโมบายแบงกิ้งที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวด้วย

ในการนี้ กสทช.มุ่งกำจัดซิมผี ที่อยู่ในความครอบครองของมิจฉาชีพ โดยอาศัยอำนาจตามประกาศดังกล่าว ซึ่งไม่ต้องรอการแจ้งระงับจากพนักงานสอบสวนที่มีขั้นตอนตามกฎหมายและต้องใช้เวลา

ทั้งยังเป็นการช่วยกำจัดซิมผีในระบบธนาคารออนไลน์ไปในคราวเดียวกัน และหากกำหนดให้เจ้าบัญชีธนาคารและเบอร์โมบายแบงกิ้งเป็นบุคคลคนเดียวกัน กลุ่มมิจฉาชีพจะทำงานได้ยากขึ้น ปัญหาเรื่องซิมผีบัญชีม้าก็จะหมดไป หรือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ