ชิปประมวลผลบนเอไอดีไวซ์เปลี่ยนทิศ โหมส่ง Qualcomm โค่น Intel?

สื่อนอกวิเคราะห์ Qualcomm ผู้ผลิตชิปมือถือ มีศักยภาพในการเข้าซื้อ ควบกิจการยักษ์ใหญ่ intel ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรมประมวลผลบนอุปกรณ์อัจฉริยะรุ่นใหม่

วันที่ 25 กันยายน 2567 สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รอยเตอร์ส บลูมเบิร์ก ฯลฯ รายงานว่า บริษัท Intel Corp. ผู้ออกแบบและผลิตชิปประมวลรายยักษ์ ได้รับการติดต่อจาก qualcomm inc. ผู้ออกแบบและผลิตชิปประมวลผลสำหรับมือถือ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ในยานยนต์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการซื้อกิจการ

ในขณะที่ intel ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ในอุตสาหกรรมชิปด้วยคู่แข่งรอบด้านไม่ว่าจะเป็นค่าย AMD หรือฝั่งชิปกระมวลผลเอไอของ NVIDIA ทั้งยอดขายชิปในคอมพีซีไม่ได้ตามคาด โดยรวมแล้วรายได้ตกต่ำ 3 ปี ติดต่อกัน

จนต้องออกแผนปรับโครงสร้างลดพนักงานถึง 15,000 คน เพื่อลดค่าใช้จ่ายราว 10,000 ล้านเหรียญ (ราว 353,000 ล้านบาท) ภายในปี 2025

ล่าสุดมีมือของกองทุนยักษ์อย่าง อพอลโล โกลบอล แมเนจเมจน์ อิงค์ เสนอลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโรงหล่อชิปของ intel หวังพลิกฟื้นการผลิตชิปมาแข่งขันแย่งมาร์เก็ตแชร์กลับ และ บลูมเบิร์ก ระบุว่านี่เป็นการเปิดทางให้มีการเข้าซื้อกิจการโดยคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Qualcomm Inc. ก็เป็นได้

รายงานยังระบุด้วยว่า หากมีการรวมจุดเด่นของทั้งสองบริษัทอาจทำให้เป็นจุดแข็งในการพัฒนาชิปปัญญาประดิษฐ์แข่งกับ NVIDIA ซึ่งครอบครองตลาดชิปเอไอสิ้น

ADVERTISMENT

แม้ว่าข้อตกลงใด ๆ จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อนำภาพการณ์นี้มาวิเคราะห์ดูรอบด้าน จะเห็นได้ชัดว่า intel กำลังเผชิญปัญหาในตลาดอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชิปในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ที่มีทั้ง NVIDIA และ AMD แข่งขัน รวมถึงด้านผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ที่ “ดีไวซ์” กำลังเปลี่ยน

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ระบุว่า ผู้นำเข้าสินค้า (Distributor) รายใหญ่ของไทย ได้เปิดเผยว่าในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เริ่มเห็นการ “ชิปปิ้ง” หรือจัดส่ง AI PC หรือ AI Phone มากขึ้น คาดว่าการสั่งซื้อโดยผู้ใช้ปลายทางจะเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

ADVERTISMENT

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร

เดิมทีในอุตสาหกรรมชิปประมวลผลบนดีไวซ์ของผู้ใช้ทั่วไป เคยถูก intel ครอบครองไว้ในอุ้งมือกว่า 30 ปี ก่อนจน intel เป็น บริษัทชิปที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก และคอมพิวเตอร์พีซีโดยส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ x86 – 64 รันบนระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft เรียกได้ว่ายิ่งซอฟต์แวร์ของ Microsoft แพร่ไปที่ใด ชิปของ intel ก็ไปด้วย

ก่อนหน้านี้ราว 5-6 ปี Apple ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟนรายใหญ่ ได้เริ่มเลิกใช้ชิป intel และหันมาใช้ชิปตระกูล M ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งเป็นเทคโนโลโลยีใหม่ เรียกว่า ARM และเริ่มเปลี่ยนถ่ายซอฟต์แวร์ให้ประมวลผลบนสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดแทบไม่เหลือแอปฯ ใดต้องพึ่งพาตัวแปลงแล้ว

เช่นเดียวกับ ฝั่ง Windows ที่ใช้ในดีไวซ์หลายแบรนด์ การจะเปลี่ยนซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมรุ่นใหม่ที่เข้ากับสถาปัตยกรรม ARM ได้ย่อมยากกว่าเพราะมี Third Party หลายราย แต่ในปีนี้ เราเห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการใช้ซอฟต์แวร์แบบ Native ARM ทดแทนสถาปัตยกรรม x86 แบบเดิม

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” ได้ทดสอบ Copilot + PC ของค่าย Microsoft เจ้าของ Windows เองที่เปลี่ยนถ่ายจากการใช้ชิป intel มาสู่ ชิป Snapdragon X Plus ของ Qualcomm ซึ่งรองรับ Windows on ARM ที่รันโปรแกรมที่จำเป็นกว่าครึ่งบนชิปสถาปัตยกรรม ARM โปรแกรมที่ไม่สามารถใช้งานบน ARM ได้ก็มี Microsoft Prism แปลแอป x86-64 ให้รันบน ARM ได้ลื่นไหลขึ้น

แนวโน้มของเทคโนโลยีประมวลผลสำหรับอุปกรณ์อย่าง AI PC จึงโน้มเอียงมาทางชิปแบบใหม่ ขณะที่ชิปซีรีย์ Core ของ intel ที่ตอนนี้ก็ยังใช้กันอย่างแพร่หลายในเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปอยู่แล้ว และพยายามสู้ด้วยชิปซีรีส์ intel Xeon ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณงานที่มีความต้องการสูง รวมถึงขยายฐานการใช้งานไปยังอุปกรณ์ขนาดเล็กด้วยโปรเซสเซอร์ Atom สําหรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานต่ำ

แต่กระนั้นจากแนวโน้มของ AI Devices ที่กล่าวข้างต้น จะเห็นว่า Qualcomm ก็ขยายตัวเองจากโปรเซสเซอร์มือถือไปสู่โปรเซสเซอร์แล็ปท็อปที่มีแพลตฟอร์มการประมวลผลของตัวเอง เพื่อทดแทนชิป intel เช่นกัน

ดังนั้น นอกจากในฝั่งของชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์ คลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ จะแข่งขันกับคู่แข่งรายใหม่อย่าง NVIDIA ได้ยากลำบาก ฝั่งของดีไวซ์คอนซูเมอร์ทั่วโลกก็อาจถึงคราวเปลี่ยนทิศไปหา Snapdragon กันยกขโยง สิ่งนี้น่าจะปรากฎให้เห็นในการเปิดไลน์อัพผลิตภัณฑ์พีซีรุ่นใหม่ๆ ในปีหน้า จึงต้องจับตาดูต่อไปทั้งแนวโน้มของดีไวซ์รุ่นใหม่ ๆ สู่ชิปรุ่นใหม่ รวมถึงดีลยักษ์ของวงการชิปที่อาจเกิดขึ้นนี้ด้วย