ราคา Bitcoin ทะลุ 81,000 เหรียญสหรัฐฯ จ่อทำออลไทม์ไฮต่อเนื่องหลัง “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ข้อเสนอให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ หนุนซื้อ Bitcoin 1 ล้าน BTC เพื่อเป็นสินทรัพย์สำรองทางยุทธศาสตร์ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้ง
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ราคา Bitcoin ได้ทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่อีกครั้งเมื่อเช้าวันนี้ ที่ 81,500 เหรียญสหรัฐฯ ผลักดันให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในภาพรวมมีมูลค่าสูงถึง 2.75 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
การทำราคาสูงสุดตลอดกาลของ Bitcoin เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก 74,000 เหรียญสหรัฐฯ และปรับตัวเพิ่มถึงระดับ 80,000 เหรียญฯ ตั้งแต่วานนี้
ในชุมชนคริปโตฯ และสื่อหลายสำนัก มีการหยิบยกนโยบายเกี่ยวกับ Bitcoin ที่ทรัมป์ เคยหาเสียงไว้ว่าจะสนับสนุนให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองของชาติ รวมถึงข้อเสนอเชิงนโยบายที่ สว. พรรครีพลับลิกัน เคยเสนอต่อสภาเกี่ยวกับแผนการซื้อ Bitcoin 1 ล้าน BTC ภายในระยะเวลา 5 ปี ถูกนำมาพิจารณาซ้ำ
ข้อเสนอกฎหมายบิทคอยน์ เสนอโดย สว. ซินเทีย ลัมมิส (R-Wyo.) ปีนี้ เรียกร้องให้สร้าง Bitcoin strategic reserve เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากหนี้ประเทศเกือบ 36 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยซื้อบิทคอยน์ 1 ล้าน BTC ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการประกาศนโยบายตอนหาเสียงของ “ทรัมป์” เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ในงาน bitcoin conference ที่เมือง Nashville รัฐ Tennessee,
ทรัมป์สัญญาว่าจะทำให้สหรัฐฯเป็น “เมืองหลวงคริปโตฯ ของโลก” และสร้าง Bitcoin strategic reserve โดยใช้บิทคอยน์ที่รัฐบาลถือครอง
ปัจจุบันสหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin 2 แสนกว่า BTC มูลค่าราว 15000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่ยึดมาจากอาชญากร ทำให้เป็นรัฐบาลที่ถือบิตคอยน์ที่มากที่สุดในโลก โดยจีนเป็นรองที่ใกล้เคียงกัน
อีกส่วนที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง คือ เม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน Bitcoin Spot ETF แม้ว่าราคา Bitcoin จะทำจุดสูงสุดในช่วงในช่วงปิดการซื้อขายในวันหยุด แต่กระแสเงินที่ไหลเข้าตั้งแต่ช่วงวันที่ 6 – 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานับว่าสูงสุดในรอบเดือน โดยเฉพาะในวันที่ 7 พ.ย. มีเม็ดเงินกว่า 1.36 พันล้านเหรียญสหรัฐไหลเข้า หรือเฉพาะกองทุน IBIT ของ BlackRock รายเดียวมีเงินไหลเข้า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ