Internet of Value บล็อกเชนในไทย “พร้อมมาก”

บล็อกเชนในประเทศไทยเพิ่งเป็นที่รู้จักในไม่กี่ปี แต่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ล่าสุดภาครัฐเพิ่งให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแก่เอกชน 4 ราย ทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ในงานสัมมนา “ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน” ยังได้ฉายภาพอนาคตของเทคโนโลยีนี้

“จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ซื้อขายบิตคอยน์ “Bitkub” เปิดเผยว่า บล็อกเชนเป็นการดิสรัปต์ครั้งที่ 5 ของโลก ทั้งยังก้าวไปไกลจากเฟสแรกที่มีเป้าหมาย คือ “internet of money” ใช้บิตคอยน์โอนเงินข้ามประเทศโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เฟส 2 “internet of asset” ใช้จัดการทรัพย์สินอื่นนอกจากงาน จนถึงเฟส 3 ที่บล็อกเชนกลายเป็น Decentralized Autonomous Organization คือ บริษัทที่เดินด้วยตัวเองได้ผ่าน smart contract และขณะนี้กำลังอยู่ในเฟส 4 คือ เว็บ 3.0 หรือ “value web” ที่แลกเปลี่ยนมูลค่าข้ามรูปแบบข้ามแพลตฟอร์มได้หมด โดยมีหลังบ้านเป็นตัวกำหนดราคากลางเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินในสกุลที่ร้านค้ารับ

โลกเปลี่ยนสู่ Internet of Value

“บล็อกเชนทำให้อัพโหลดทุกอย่างเข้าไปในโลกออนไลน์ GDP ยิ่งเติบโตเร็ว โลกกำลังเปลี่ยนจาก internet of information เป็น internet of value”

ปัจจุบันการนำบล็อกเชนเข้ามาใช้ได้ง่ายมาก เพราะมีบล็อกเชนของ “ethereum” ที่เป็นเหมือนแพลตฟอร์มสร้างบล็อกเชนและเหรียญสำเร็จรูป ทำให้ 1 ปีทั่วโลกมีคริปโตกว่า 2,000 สกุล จาก 100 กว่าสกุล ต่อไปบล็อกเชนจะมาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน

บล็อกเชนไทยเนื้อหอม

ขณะที่ภาพรวมประเทศไทยปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการสร้างการรับรู้เรื่องบล็อกเชน ซึ่งภาคธุรกิจมีความเข้าใจมากขึ้น สถาบันการเงินขนาดใหญ่เริ่มนำบล็อกเชนเข้ามาใช้แล้ว ปีนี้จึงเป็นปีแห่งการทดลองใช้บล็อกเชนในแต่ละธุรกิจมากขึ้น ทั้งยังเป็นประเทศแรก ๆ ของโลกที่เปิดกว้างเรื่องนี้ โดยมีการออกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทำให้ใช้บล็อกเชนทำธุรกิจได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย คาดว่าภายใน 5 ปีบล็อกเชนจะถูกใช้อย่างแพร่หลาย

“อีโคซิสเต็มในไทยตามหลังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ประมาณ 10 เท่า แต่การที่ผู้กำกับดูแลของไทยให้ความสำคัญ จึงสร้างโอกาสให้ต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น”

ICO มากไปฉุดเติบโต

ด้าน “การดี เลียวไพโรจน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ไอโครา จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาการระดมทุนด้วยการออกเหรียญดิจิทัล (ICO) มีธุรกิจที่ล้มเหลวถึง 97% สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) จึงได้ออกกฎเกณฑ์การทำ ICO ที่ค่อนข้างจำกัด โดยอิงกับเงื่อนไขการทำ IPO ทำให้สตาร์ตอัพหรือบริษัทต่าง ๆ ออกไป

จดทะเบียนบริษัทในต่างประเทศรวมทั้งทำ ICO ที่อื่น แต่อาจกลายเป็นการจำกัดการเติบโต เพราะนวัตกรรมจำเป็นต้องมีการทดลองและอาศัยประสบการณ์ ซึ่ง ICO เป็นการสร้างโอกาสให้เจ้าของธุรกิจอย่างสตาร์ตอัพ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กให้ระดมทุนได้ง่ายจากทั่วโลก

“ICO ที่ดีต้องตอบให้ได้ 3 ข้อ 1.มีบทบาทอะไร 2.มีฟีเจอร์อะไร 3.เราจะได้อะไร ถ้าตอบไม่ได้ก็เลิกคิดที่จะลงทุน เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันและความเข้าใจ ไม่ใช่แค่ให้กฎหมายมาป้องกัน อย่ากลัวแต่ต้องรอบคอบ”

“โลจิสติกส์-มีเดีย” โดดร่วมแจม

การทำ ICO ต่างกับ IPO ตรง IPO ต้องเสียความเป็นเจ้าของบริษัท เช่น หุ้น แต่การลงทุนใน ICO เป็นการมีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์นั้น ๆ (investment participation) โดยผู้ลงทุนก็จะมีสิทธิ์ในโปรเจ็กต์นั้น ๆ ดังนั้น ICO ไม่ได้มาแทนที่ แต่เป็นบันไดสู่การทำ IPO สำหรับประเทศไทยในปี 2561 ช่วงแรกการทำ ICO ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทอินฟราสตรักเจอร์และฟินเทค แต่ช่วงปลายปีที่ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโฆษณา เพลง และอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น ในปีนี้ 3 อุตสาหกรรมที่น่าจับตาว่าจะเข้ามาทำ ICO ได้แก่ 1.อสังหาริมทรัพย์ 2.ซัพพลายเชน โลจิสติกส์ และ 3.มีเดีย และแอดเวอร์ไทซิ่ง เนื่องจากทุกอุตสาหกรรมกำลังมุ่งสู่ฟินเทค แม้จะไม่ได้เกี่ยวกับดิจิทัล แต่กำลังเปลี่ยนสู่โมเดลใหม่

“แต่ธุรกิจที่ยังขนาดไม่ใหญ่ และไม่ได้คิดจะนำบล็อกเชนมาเป็นอินฟราสตรักเจอร์ อาจจะยังไม่ต้องคิดทำบล็อกเชนหรือ ICO แต่ถ้าต้องการจะใช้บล็อกเชนปฏิวัติองค์กรสามารถทำได้ทันที”

“กิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บล็อกเชนจุดเด่น ได้แก่ 1.ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลบนระบบได้ 2.มีการยืนยันตัวตนอย่างถูกต้อง รู้ว่าเป็นใคร 3.สามารถมีบทบาทในการตรวจเช็กได้ และข้อมูลเป็นความลับ ไม่สามารถเห็นข้อมูลของกันได้ ดังนั้น จากประโยชน์เหล่านี้บล็อกเชนจะทำให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ เพราะการใช้บล็อกเชนจะช่วยลดความล่าช้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสาร กฎเกณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงลดความเสี่ยงด้วย เพราะการจะแฮกบล็อกเชนทำได้ยาก

“ปัจจุบันไม่มีความเชื่อใจ จะโอนเงินก็ต้องมีพยานหรือคนกลาง เช่น แบงก์ แต่บล็อกเชนจะกระจายคนกลางทั่วเน็ตเวิร์ก ทำให้ทุกคนช่วยกันเป็นพยาน ทำให้ไม่ต้องมีคนกลาง การแฮกก็ยากเพราะต้องแฮกทั้งเครือข่ายพร้อม ๆ กัน ดังนั้น เครือข่ายยิ่งใหญ่ยิ่งต้องมีซีเคียวริตี้สูง”

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!