LINE เผยช่วงโควิด-19 ดัน “ไลน์แมน” โตขึ้น 3 เท่า

Martin BUREAU / AFP

ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2562 LINE ประเทศไทย ได้ประกาศวิสัยทัศน์ Life on LINE ด้วยการเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของคนไทย โดยมีการพัฒนาต่อยอดบริการใหม่ๆ ต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคทั้งในแง่การดำเนินชีวิต และธุรกิจทำให้มีผู้ใช้เพิ่มกว่า 2 ล้านคน ใน 1 ปี  จาก 44 ล้านรายเป็น 46 ล้านราย

“สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่ามาทำให้คนพูดกันถึง นิวนอร์มัลในหลายด้าน และสิ่งที่เราทำได้ทำให้ไลน์กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตสำหรับ New Normal Lifestyle ด้วย เมื่อโควิดเร่งให้เเทคโนโลยีเข้ามามีผลกับการดำเนินชีวิตเกือบ 100% ทั้งการติดต่อสื่อสาร การช้อปปิ้ง และการทำงานที่บ้านต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น”

ภายใน Ecosystem ของ LINE มีบริการครบให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพทำให้การใช้งานบริการต่างๆ เพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา เช่น LINE Call มียอดการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์เพิ่มเกิน 270% มีการใช้วอยซ์ เพิ่มขึ้น 236% 

“การใช้สติ๊กเกอร์เพิ่มขึ้นชัดเจน โดย 70% ของสติ๊กเกอร์ที่ขายดีจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับโควิด เช่น เรื่องการกักตัว และมีการออกแบบสติ๊กเกอร์ใหม่ๆ  ซึ่ง 80% มีเนื้อหาเกี่ยวกับโควิดเช่นกันเพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค”


ไลน์แมน โต 3 เท่า

ขณะที่การใช้ “ไลน์แมน” เติบโตขึ้นตามความต้องการของประชาชน เพราะทุกคนอยู่บ้าน แต่ความต้องการจับจ่ายใช้สอยยังมีต่อเนื่อง จึงโตขึ้น 3 เท่าในช่วงล็อกดาวน์ โดยอาหารที่ขายดีสุดอยู่แล้วคือ อาหารไทย,  อาหารอีสาน และอาหารตามสั่ง แต่ประเภทอาหารที่เป็นดาวรุ่ง คือปิ้งย่าง ทำให้เห็นพฤติกรรมชัดเจนว่าต่อให้ล็อกดาวน์ คนก็ยังอยากใช้ชีวิตปกติ ซึ่งไลน์เน้นการตอบโจทย์ของผู้ใช้ทุกคน

นอกจากนี้ การใช้ “ไลน์ช้อปปิ้ง” เพิ่ม 100% ในแง่ปริมาณคนสั่งของเพิ่มขึ้นมาก ส่วนมูลค่าการซื้อเพิ่ม 138% และเพจวิวมีคนเข้ามาดูไลน์ช้อปปิ้ง 233%

“สินค้าใช้ในบ้าน,  เฮสท์แอนด์บิวตี้ ยังเป็นโปรดักส์ในกลุ่มท็อป เช่นกันกับมือถือ และอุปกรณ์เสริม ส่วนแฟชั่น กีฬา สัตว์เลี้ยง และสิ่งของสะสมได้ เช่น ต้นไม้ กลายเป็นของที่โตขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด”

นอกจากนี้ LINE Official Account หรือ LINE OA มีจำนวนเพิ่มจาก 3 ล้านเป็น 4 ล้านบัญชี ภายใน 1เดือนจากมี.ค.-พ.ค.2563 เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจออนไลน์  ขณะที่ยอดการเติบโตของจำนวนร้านค้าที่ใช้ MyShop  (No. of Shops Growth Rate) สูงถึง 180% ณ เดือนเม.ย. เติบโตจากต้นปีคือ ม.ค. 2563) 

ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าบน LINE Official Accoint ที่ใช้เครื่องมือ MyShop หลักหมื่น จากช่วงแรกมีเพียงหลักร้อย หลักพันเท่านั้น ขณะที่ LINE MAN ในช่วง 3 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น 300 % เทียบกับการใช้งานในสถานการณ์ปกติ

“ปีนี้เป็นปีที่เกิดสถานการณ์ที่เซอร์ไพรส์คนทั้งโลก ซึ่งไลน์ประเทศไทย และโกลบอล ปรับตัวได้ค่อนข้างเร็ว เราไม่ได้หยุดทำงาน แต่ทำงานหนักขึ้น มีประสิทธิภาพขึ้น ไอเดนทิไฟล์ปัญหาที่จะเกิดในกลุ่มลูกค้าโฆษณา และมีโซลูชั่นที่จะให้นำไปใช้ทำให้ผลประกอบการในครึ่งปีแรกทำได้ค่อนข้างน่าพอใจ”

ดร.พิเชษฐกล่าวต่อว่า ความสำเร็จที่น่าภูมิใจอีกอย่าง คือ LINE ได้ทำหน้าที่ของแพลตฟอร์มช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เมื่อกลไกทางเศรษฐกิจหลายย่างต้องหยุดชะงัก เนื่องจากสถานการณ์ของโควิด-19 LINE อาทิ โครงการ Find Food ที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางระหว่างเกษตรกร และผู้ซื้อ, โครงการ “ห้าง ททท. ช้อปฟินกินเที่ยวทั่วไทย” นำงานแฟร์มาอยู่บนแพลตฟอร์ม LINE ให้ลูกค้าช้อปง่ายขึ้น กระจายรายได้ไปยังโรงแรม และธุรกิจบริการทั่วประเทศได้

“แม้ที่ผ่านมาเราจะเป็นที่นิยมจนเรียกได้ว่าเป็นปัจจัย 5 ในการใช้ชีวิตของคนไทย  แต่ยังเห็นถึงความท้าทายอยู่มากในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนตลอดเวลา  รวมถึงสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ เช่น โควิด-19 สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การเรียนรู้ที่จะรับมือ และใครที่ปรับตัวได้เร็วจะได้เปรียบ”