เจมาร์ท จับมือ 7 กลุ่มธุรกิจในเครือ เปิดตัวแคมเปญ “ลด แลก แจก” กระตุ้นคนใช้เหรียญดิจิทัลโทเคน “JFIN” ซื้อสินค้า
วันที่ 6 พ.ค. 2564 นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ เจมาร์ท กล่าวว่า เจมาร์ทริเริ่มที่จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้กับบริษัทในเครือเจมาร์ท โดยได้เปิดตัวเหรียญดิจิทัลโทเคนที่ชื่อ JFIN Coin ที่บริษัท เจเวนเจอร์ส จำกัด เปิดระดมทุนในรูปแบบ ICO (initial coin offering) ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งอยู่ในลักษณะ Utility Token หรือสินทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่งได้
- เปิดคำทำนาย “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ปี 2567 ฝนตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- น้ำมันทำอาหารใช้แล้วอย่าทิ้ง บางจากรับซื้อ กก.20 บาท เช็ก 162 จุดรับซื้อ
ล่าสุดได้ต่อยอดนำเหรียญ JFIN มาใช้ในกลุ่มบริษัทเจมาร์ททั้ง 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด และ บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด
เปิดตัวโครงการที่สร้างการตระหนักรู้การดิจิทัลโทเคนให้ลูกค้าของเจมาร์ทผ่านแคมเปญ “ลด แลก แจก” ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ตั้งเป้าจับลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่สนใจการลงทุน และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาทต่อเดือน และจะเริ่มใช้กับพนักงาน 9,000 คน ผ่านโครงการ ETOP แจกเหรียญ JFIN ให้พนักงานใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจด้านคริปโตเคอเรนซี่
“เจมาร์ทสร้างดีมานต์ให้เกิดขึ้นในตลาด โดยจะเริ่มกระตุ้นให้ลูกค้าเจมาร์ทหันมาใช้เหรียญ JFIN กันมากขึ้น อาทิ แลกสมาร์ทโฟนด้วยเหรียญ JFIN ที่เจมาร์ท โมบาย สะสมเหรียญ JFIN เมื่อผ่อนชำระหนี้กับเจ เอ็ม ที หรือการใช้เหรียญ JFIN เพื่อแลกซื้อกาแฟที่ Casa Lapin”
ด้าน นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเจมาร์ทต้องการผลักดันให้เหรียญ JFIN กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกยอมรับในวงกว้าง (Real JFIN Utility mass adoption) ผ่านอีโคซิสเต็มของเจมาร์ทที่มีธุรกิจในเครือหลากหลาย อาทิ ค้าปลีก การเงิน ประกัน อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยดึงความสนใจจากผู้บริโภคให้เข้ามาอยู่ในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ทั้งยังเป็นการกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นด้วย
